เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2568 ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น นายพันธ์เทพ เสาโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานเปิดงาน “พลังเครือข่ายไหมและสิ่งทอ เชื่อมโยงท้องถิ่นสู่สากลอย่างยั่งยืน” ซึ่งจัดโดยสมาคมไหมไทยและสิ่งทอจังหวัดขอนแก่น มีผู้ประกอบการ วิสาหกิจชุมชน และผู้รักผ้าไหมจากทั่วภาคอีสานเข้าร่วมอย่างคับคั่ง
ก่อนเริ่มกิจกรรม ผู้เข้าร่วมงานร่วมกัน ยืนสงบนิ่งถวายความอาลัยแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ที่ทรงมีต่อวงการผ้าไหมไทยและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนทั่วประเทศ
นายภพพล เกษมสันต์ ณ อยุธยา นายกสมาคมไหมไทยและสิ่งทอจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า พระพันปีหลวงทรงมี พระอัจฉริยภาพและวิสัยทัศน์อันกว้างไกล ในการอนุรักษ์และต่อยอดผ้าไหมไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก โดยเฉพาะที่จังหวัดขอนแก่น พระองค์เคยมีพระราชดำรัสให้พัฒนาผ้าไหมบ้านหัวฝาย ตำบลปอแดง อำเภอชนบท เพื่อยกระดับลวดลายและคุณภาพให้มีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น นำไปสู่การสร้างลายผ้าประจำจังหวัดและแฟชั่นร่วมสมัย จนเป็นที่ยอมรับในเวทีนานาชาติ
“พระองค์ทรงเป็นแรงบันดาลใจให้ชาวบ้านมีอาชีพ มีรายได้ และมีความภาคภูมิใจในผลงานของตนเอง สมาคมฯ ยึดถือพระราชดำรัสนั้นเป็นแนวทางในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนผ้าไหมขอนแก่นสามารถก้าวสู่ตลาดโลกได้อย่างสง่างาม” นายภพพลกล่าว พร้อมเผยว่า เดือนหน้าจะมีการนำผู้ประกอบการไปดูงานที่เมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส เมืองหลวงแห่งผ้าไหมของโลก
ด้าน นางสุภาณี ประชามูล ประธานวิสาหกิจชุมชนผ้าไหมมัดหมี่บ้านหัวฝาย เล่าด้วยความซาบซึ้งว่า ครั้งหนึ่งเคยมีโอกาสเฝ้ารับเสด็จพระพันปีหลวงที่อำเภอชนบท พระองค์ทอดพระเนตรเห็นผ้าถุงสีเม็ดมะขามของชาวบ้านและตรัสด้วยความสนพระทัยว่า “สวยจังเลย ทำไปให้หน่อยนะ” จากนั้นบ้านหัวฝายจึงได้รับพระราชทานโอกาสให้ทอผ้าไหมส่งถวายวังสวนจิตรลดา
“ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา บ้านหัวฝายทั้งหมู่บ้านได้กลายเป็นชุมชนทอผ้าไหมที่มีชื่อเสียง เราได้ผ้าไหมของชาวบ้านเข้าสู่ตลาดจริง ๆ ครั้งแรกในชีวิตก็เพราะพระองค์ท่าน” นางสุภาณีกล่าวด้วยน้ำตาซึม “ท่านคือแม่ของแผ่นดิน เป็นผู้ให้ชีวิตแก่คนทอผ้าอย่างเรา ถ้าไม่มีพระองค์ เราคงไม่มีวันนี้”
งานครั้งนี้จึงไม่เพียงเป็นการแสดงศักยภาพของผ้าไหมขอนแก่น หากยังเป็นการน้อมรำลึกถึง “พระแม่แห่งไหมไทย” ผู้ทรงใช้พระอัจฉริยภาพและพระเมตตา สร้างคุณค่าให้ผืนไหมไทยกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความงาม ภูมิปัญญา และความภาคภูมิใจของคนไทยตราบจนทุกวันนี้
ข่าว/ภาพ : จักรพันธ์ นาทันริ ผู้สื่อข่าวจังหวัดขอนแก่น