
เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน เจ้าหน้าที่ความมั่นคงจังหวัดตราดต้องเร่งระดมกำลัง หลังได้รับสัญญาณลับว่ามีการลักลอบขนพริกไทยจากประเทศกัมพูชาทะลักเข้าชายแดนไทย พ.ต.อ.มนตรี จินะ ผกก.สภ.บ้านท่าเลื่อน จึงสั่งการด่วนให้เข้าตั้งด่านสกัดที่ด่านตรวจความมั่นคงบ้านเนินสูง ต.ตะกาง อ.เมือง จ.ตราด เพื่อดักจับรถต้องสงสัยที่ถูกระบุว่าใช้ลำเลียงของผิดกฎหมาย

ไม่นานนัก รถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียน 70-2131 สมุทรสงคราม ก็ขับฝ่าความมืดเข้ามาในจุดตรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าเลื่อน ร่วมกับทหารหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด และตำรวจน้ำ เข้าปิดล้อมทันที ก่อนขอตรวจค้นตู้ทึบด้านหลัง และพบภาพที่ยืนยันข้อมูลของสายลับ—พริกไทยสดจากกัมพูชากองพะเนินอยู่เต็มตู้

คนขับคือนายธงชัย สุขหลาย อายุ 50 ปี ชาวตำบลเนินทราย อ.เมืองตราด ถูกควบคุมตัวพร้อมรถบรรทุกและพริกไทยทั้งหมดไปยัง สภ.ท่าเลื่อน เพื่อสอบสวนขยายผล โดยตรวจนับพบพริกไทยสด 2,900 กิโลกรัม และพริกไทยแห้ง 1,150 กิโลกรัม รวม 4,050 กิโลกรัม มูลค่ารวมราว 600,000–700,000 บาท

แม้ผู้สื่อข่าวจะพยายามสอบถามถึงเครือข่าย ผู้อยู่เบื้องหลัง และค่าจ้าง แต่ธงชัยกลับปิดปากเงียบ บอกเพียงว่าได้ให้ข้อมูลกับตำรวจแล้วเท่านั้น ทว่าชุดสืบสวนเผยว่า ขบวนการนี้ถูกติดตามมาระยะหนึ่ง และมีพฤติกรรมลักลอบขนพริกไทยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

พบว่าเมื่อวันที่ 9–10 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา กลุ่มขบวนการได้ลักลอบขนพริกไทยเข้าไทยผ่านท่าเรือในอำเภอคลองใหญ่ ก่อนส่งต่อด้วยรถยนต์สี่ล้อไปยังจังหวัดจันทบุรี แต่ถูกด่านศุลกากรจันทบุรีจับได้ พร้อมของกลางกว่า 2,000 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 300,000 บาท

หลังเหตุการณ์นั้น เจ้าหน้าที่จึงเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด และพบความเคลื่อนไหวอีกครั้งในวันที่ 24 พฤศจิกายน แต่ยังไม่สามารถสกัดจับได้ จนกระทั่งคืนวันที่ 25 พฤศจิกายน ขบวนการกลับใช้เส้นทางเดิมในการลักลอบขนของ และครั้งนี้นายธงชัยรับค่าจ้าง 4,000 บาทต่อเที่ยว ก่อนถูกสกัดจับได้สำเร็จที่ด่านบ้านเนินสูง

เบื้องต้นเชื่อว่า พริกไทยทั้งหมดถูกขนเข้ามาเพื่อ “สวมสิทธิ์” ให้เป็นพริกไทยไทย ก่อนกระจายขายให้ผู้ประกอบการในประเทศ ซึ่งสร้างความเสียหายให้เกษตรกรไทยเป็นอย่างมาก
ข่าว/ภาพ : จักรกฤชณ์ แววคล้ายหงษ์ ผู้สื่อข่าวจังหวัดตราด