เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมบูรณาการการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ (น้ำท่วมภาคใต้) วันนี้ (27 พ.ย.) ที่กระทรวงการคลัง โดยระบุว่า ได้จัดการประชุมเร่งด่วนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดกรอบการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟู ผู้ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งถูกประกาศเป็นพื้นที่สถานการณ์ฉุกเฉิน นายกฯ ยืนยันว่ารัฐบาลกำลังใช้เวลาทุกวินาทีในการดำเนินงาน โดยเน้นย้ำว่ามาตรการด้านเศรษฐกิจ การเงิน และงบประมาณเยียวยาต้องส่งถึงมือประชาชนโดยเร็วที่สุด
โดยมาตรการเร่งด่วนที่สำคัญคือ การจัดสรรงบประมาณเพื่อความคล่องตัวในการช่วยเหลือ โดยสำนักงบประมาณได้ยืนยันว่ามีความพร้อมจ่าย เงินเยียวยา 9,000 บาท ให้กับประชาชนทันที
นายกฯ ได้กล่าวต่อว่ามอบหมายให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็นผู้บัญชาการสถานการณ์ในพื้นที่ และสั่งการให้รองนายกรัฐมนตรีรับผิดชอบพื้นที่น้ำท่วมเป็นรายจังหวัด โดย รองนายกรัฐมนตรีธรรมนัส ทำหน้าที่สั่งการในพื้นที่จังหวัดสงขลาเสมือนเป็นนายกรัฐมนตรี
ด้านนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกฯ แลัรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่ากระทรวงการคลังได้ขยายวงเงินทดรองราชการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถใช้จ่ายได้ทันที สูงสุด 100 ล้านบาท เพื่อดูแลปัจจัยสี่ เช่น อาหาร น้ำ และยารักษาโรค นอกจากนี้ยังได้ออกระเบียบรองรับการจัดซื้อจัดจ้างภายใต้พระราชกำหนดการฉุกเฉิน ทำให้การเบิกจ่ายไม่เป็นอุปสรรค
สำหรับการฟื้นฟูหลังน้ำลด ทางกระทรวงการคลังได้บูรณาการร่วมกับสถาบันการเงินของรัฐและสมาคมธนาคารไทย เพื่อเตรียมแพ็กเกจ พักหนี้ พักดอก ให้กับผู้เดือดร้อน พร้อมทั้งเตรียมสินเชื่อดอกเบี้ย 0% สำหรับการซ่อมแซมบ้านเรือนและร้านค้า ลูกหนี้ที่มีวงเงินกู้เดิมอยู่แล้วก็สามารถเบิกเงินเพิ่มเพื่อใช้จ่ายได้ทันที นอกจากนี้ยังมีการประสานงานเรื่องการเบิกค่าประกันภัยบ้าน-รถ ให้กับผู้ประสบภัยโดยเร็วและง่ายที่สุด โดยได้มีการประสานงานกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ไว้แล้ว
นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมอาคารราชพัสดุ 5-6 แห่ง ในพื้นที่ เพื่อใช้เป็นที่พักพิงชั่วคราวสำหรับผู้เดือดร้อน และยังกลับเข้าที่พักอาศัยไม่ได้ และกระทรวงพาณิชย์จะดูแลให้มีการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคในต้นทุนที่ถูก และส่งถึงประชาชนอย่างรวดเร็ว
ด้านนางตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานแถลงว่า จากข้อมูลเบื้องต้น (26 ก.ย.) มีสถานประกอบการได้รับผลกระทบประมาณ 10,000 แห่ง และลูกจ้างประมาณ 200,000 ราย
กระทรวงแรงงาน ได้ใช้ สิทธิประโยชน์กรณีว่างงานเนื่องจากเหตุสุดวิสัย โดยกองทุนประกันสังคมจะจ่ายเงินทดแทนเป็น 50% ของค่าจ้างรายวัน (ไม่เกิน 6 เดือน) ให้แก่ผู้ประกันตนที่ไม่สามารถไปทำงานได้ นอกจากนี้ ยังได้จัดตั้ง ศูนย์ซ่อมสร้าง เพื่อช่วยเหลือในการซ่อมแซมบ้านเรือนเบื้องต้นหลังน้ำลดด้วย
ขณะที่ นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้ระบุว่า ศูนย์เฉพาะกิจปฏิบัติการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย (สปกฉ.) จะรวบรวมข้อมูลจาก 4 กระทรวงหลัก ได้แก่ กระการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน และ DE และจะมีการแถลงข้อมูลอย่างเป็นทางการทุกวัน ทั้งช่วงเช้าและช่วงบ่าย โดยขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในข้อมูลที่แถลงจาก สปกช. เพื่อหลีกเลี่ยงความสับสน