“เอกนิติ”นำทีมไทยเสนอ PromptPay–AI Score สู่เวทีเอเปคเสริมการเงินดิจิทัลภูมิภาค

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปค (APEC Finance Ministers’ Meeting: APEC FMM) ครั้งที่ 32 ณ เมืองอินชอน ภายใต้หัวข้อหลัก “การเติบโตที่ยั่งยืนและความมั่งคั่งร่วมกันในภูมิภาค” (Sustainable Growth and Shared Prosperity in the Region) พร้อมนำเสนอแนวทางนโยบายการคลังของไทยยุคใหม่ ภายใต้หลัก 3P Model คือ Precision – Priorities – Partnerships เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่อนาคตอย่างยั่งยืน

เศรษฐกิจโลกยังเปราะบาง

ที่ประชุมได้หารือแนวโน้มเศรษฐกิจโลกซึ่งยังคงเปราะบาง โดย กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดว่าเศรษฐกิจโลกปี 2568 จะขยายตัวเพียง ร้อยละ 3.2 ท่ามกลางแรงกดดันจากเงินเฟ้อสูง หนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้น การขาดแคลนแรงงาน และความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ ขณะที่การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง เช่น สังคมสูงอายุและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ยังคงสร้างแรงท้าทายต่อการเติบโต

ไทยชู “PromptPay – Project Nexus – ARI Score” บนเวทีเอเปค

หนึ่งในประเด็นสำคัญของการประชุม คือ การพัฒนาเทคโนโลยีการเงินดิจิทัล (Digital Finance) ที่ประชุมเน้นย้ำการใช้ AI และแพลตฟอร์มดิจิทัล เพื่อขยายการเข้าถึงบริการทางการเงิน โดยเฉพาะกลุ่ม MSMEs และผู้มีรายได้น้อย

นายเอกนิติ ได้นำเสนอความสำเร็จของไทยผ่าน ระบบ PromptPay ที่มีผู้ใช้งานกว่า 80 ล้านบัญชี และขยายความร่วมมือในระดับภูมิภาคด้วย Project Nexus รวมถึงการพัฒนา ARI Score ซึ่งเป็นระบบประเมินเครดิตรูปแบบใหม่ที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์อย่างโปร่งใสและเป็นธรรม เพื่อเพิ่มโอกาสทางการเงินแก่ประชาชนและผู้ประกอบการรายย่อย

“3P Model” กรอบนโยบายการคลังแห่งอนาคตของไทย

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้นำเสนอแนวทางการใช้นโยบายการคลังภายใต้หลัก 3P ได้แก่

  1. Precision – การใช้นโยบายแบบตรงจุดด้วยข้อมูลและเทคโนโลยี เช่น โครงการ “คนละครึ่ง พลัส” ที่เปิดให้ลงทะเบียนกว่า 20 ล้านคนภายในวันเดียว ผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล
  2. Priorities – การลงทุนในประเด็นยุทธศาสตร์ เช่น เศรษฐกิจฐานราก พลังงานสะอาด และทักษะดิจิทัลของแรงงาน
  3. Partnerships – การผลักดันการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) เพื่อเสริมประสิทธิภาพและลดภาระทางการคลัง โดยยังคงยึดมั่นใน วินัยการเงินการคลัง และรักษาเพดานหนี้สาธารณะให้อยู่ในระดับปลอดภัย

รับรอง “แถลงการณ์อินชอน” เสริมความร่วมมือการเงินเอเปค

ที่ประชุมได้ให้การรับรอง แถลงการณ์ร่วมรัฐมนตรีคลังเอเปคประจำปี 2568 เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านนโยบายการคลัง การลงทุนเชิงยุทธศาสตร์ และการสร้างความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทาน โดยใช้ “แผนปฏิบัติการอินชอน” (Incheon Action Plan) เป็นกรอบดำเนินงาน 5 ปีข้างหน้า มุ่งสู่ภูมิภาคเอเปคที่เติบโตอย่างยั่งยืนและมีความมั่งคั่งร่วมกัน