เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2568 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ชุมชนชาวเกาะเกร็ด หมู่ที่ 6 ตำบลเกาะเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี หลังน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาขึ้นสูงจนเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ชุมชน ระดับน้ำโดยรอบเกาะเกร็ดอยู่ที่ประมาณ 60 เซนติเมตร สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนจำนวนมาก
ท่ามกลางสายน้ำที่ไหลบ่า ยังมีภาพน่าประทับใจของ น.ส.จิดาภา ไสยะหุต อายุ 67 ปี เจ้าของร้าน “แก่-ลอรี่” ร้านอาหารบรรยากาศดีริมเกาะเกร็ด ที่แม้ร้านจะถูกน้ำท่วมแต่ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ เพื่อสร้างรอยยิ้มและให้ความสะดวกกับนักท่องเที่ยว รวมทั้งชาวบ้านในพื้นที่ที่ยังต้องใช้ชีวิตท่ามกลางน้ำ
น.ส.จิดาภา เล่าว่า วันนี้ระดับน้ำสูงกว่าเมื่อวานมากจนเข้าท่วมภายในร้าน แต่ตนยังเปิดขายอาหารตามปกติ มีทั้งนักท่องเที่ยวที่ลุยน้ำเข้ามานั่งรับประทานอาหาร และลูกค้าชาวชุมชนที่พายเรือมาซื้อถึงร้าน บางรายยังโทรสั่งอาหารให้ส่งถึงบ้าน เธอจึงพายเรือไปส่งเองด้วยรอยยิ้ม
“ตั้งใจจะเปิดร้านไปเรื่อยๆ จนกว่าน้ำจะลดลง คาดว่าน่าจะกลับมาเปิดปกติได้ปลายเดือนธันวาคม ตอนนี้น้ำเริ่มมาระรอกที่สองแล้ว กลัวอยู่นิดหน่อยว่าจะเหมือนปี 54 แต่ก็ต้องสู้” น.ส.จิดาภา กล่าวด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น
นอกจากร้านอาหารแล้ว หญิงใจงามรายนี้ยังเปิด “โฮมสเตย์” ของตนให้กับชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมบ้าน ไม่มีที่อยู่อาศัย ได้เข้ามาพักฟรีโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย พร้อมทั้งจัดเตรียมอาหารและสิ่งจำเป็นให้ผู้สูงอายุที่เข้ามาพักอาศัยเหมือนคนในครอบครัว
“เมื่อคืนก็มีคนแก่เข้ามาพัก ตนดูแลเหมือนญาติ อยากช่วยเท่าที่ช่วยได้ เพราะเราอยู่ที่นี่ด้วยกันมานาน” เธอกล่าวด้วยรอยยิ้มอบอุ่น
เรื่องราวของ “ป้าจิดาภา” จึงเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของน้ำใจงามในยามทุกข์ ที่แสดงให้เห็นถึงพลังของชุมชนเกาะเกร็ดที่ยังคงยืนหยัดและไม่ทอดทิ้งกัน แม้น้ำจะสูง แต่หัวใจของคนที่นี่กลับยิ่งใหญ่กว่า