
เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ว่า อยู่ระหว่างการติดตามอย่างใกล้ชิด แม้ตนจะอยู่ระหว่างการเดินทางไปต่างประเทศ แต่ยืนยันว่าได้เปิดช่องทางการสื่อสารกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตลอด 24 ชั่วโมง
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เหตุการณ์เสียงดังคล้ายระเบิดเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน บริเวณบ้านหนองจาน–หนองหญ้าแก้ว จังหวัดสระแก้ว ทำให้ประชาชนเกิดความกังวล แต่รัฐบาลขอให้มั่นใจว่า จะทำหน้าที่อย่างเต็มที่เพื่อปกป้องความปลอดภัยของประชาชนและอธิปไตยของชาติ โดยย้ำว่า “ไทยไม่ได้มีเจตนาจะไปรุกรานใคร แต่ก็จะไม่ยอมให้ใครมาคุกคามอธิปไตยของเรา”
ส่วนกรณีที่มีรายงานว่าฝ่ายกัมพูชามีการใช้อาวุธปืนเล็กยิงก่อกวนเข้ามาในฝั่งไทย นายอนุทินกล่าวว่า กองทัพมีแผนยุทธวิธีที่ชัดเจน และรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนเต็มที่ หากสถานการณ์จำเป็นต้องอพยพประชาชน ศูนย์พักพิงและเงินเยียวยาได้เตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว
“เตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว” นายกรัฐมนตรีกล่าว พร้อมยกตัวอย่างการดำเนินการช่วยเหลือประชาชนในภาคอีสานใต้ที่ผ่านมา ซึ่งสามารถดูแลผู้ที่ต้องอพยพได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยความร่วมมือจาก ส.ส. และธารน้ำใจของประชาชนทั่วประเทศ
เมื่อถามถึงการประเมินสถานการณ์ที่เริ่มตึงเครียด นายอนุทินตอบด้วยสุภาษิตโบราณว่า “แม้หวังตั้งสงบ จงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ” พร้อมยืนยันว่า ได้ให้อำนาจกองทัพในการตัดสินใจปฏิบัติการตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
สำหรับ แนวทางเตรียมความพร้อมพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยเฉพาะในจังหวัดศรีสะเกษ นายกรัฐมนตรีระบุว่า จะสั่งการผ่านสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ซึ่งมีกรอบการทำงานชัดเจน และจะมีการประชุมเพื่อรับฟังรายงานความพร้อมของทุกหน่วยงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับแผนให้เหมาะสมกับสถานการณ์
นายอนุทินย้ำในตอนท้ายว่า “กองทัพมีความพร้อมเต็มที่ในการปกป้องแผ่นดิน อธิปไตย และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนทุกคน”