เรือหัวลากมรณะพุ่งชนบ้านริมน้ำกลางดึก 3 หลังพังยับชาวบ้านปีนหน้าต่างหนีตายโกลาหล

เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. ของวันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 ความสงบเงียบของชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา หมู่ 5 ตำบลเกาะเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จ.นนทบุรี ต้องสั่นสะเทือน เมื่อ เรือหัวลาก “ราทเทพ 4” ของบริษัทเอกชนซึ่งบรรทุกทรายแล่นฝ่าแรงน้ำก่อน พุ่งชนบ้านเรือนประชาชน 3 หลังเต็มแรง จนเกิดเสียงดังสนั่นราวระเบิดกลางลำคลอง ชาวบ้านที่กำลังหลับผวาตื่นด้วยความตกใจสุดขีด

แรงปะทะทำให้ โครงสร้างบ้านพังถล่ม บ้านโยกตัวทั้งหลัง เสาไฟฟ้าหักโค่นหนึ่งต้น ทำไฟดับทั้งแนว ขณะที่บางครอบครัวต้องวิ่งหนีออกนอกบ้านอย่างอลหม่าน บางรายถูกบีบให้ ปีนออกทางหน้าต่างท่ามกลางควันไฟช็อตและเศษไม้กระจัดกระจาย ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่กู้ภัยรีบเข้าพื้นที่ ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บเล็กน้อยในจุดเกิดเหตุ

นายเต้ย อายุ 30 ปี คนขับเรือ และ น.ส.กิ๊ฟ อายุ 28 ปี แฟนสาว เล่าว่าตนขับเรือขนยิปซั่มมาจากบางปะอิน มุ่งหน้าเข้าบางนา ก่อนเกิดเหตุไม่ได้เมา ไม่นอนหลับ แต่ถูก พวงมาลัยเรือขัดข้องบวกกับกระแสน้ำแรง จึงเสียการควบคุมจนพุ่งชนบ้านชาวบ้านเต็มแรง

“ตอนรู้ว่าไปชนบ้าน ผมรีบประคองเรือออกนอกแนวเพราะกลัวเกิดเหตุซ้ำ ไม่ได้จะหนีอะไรเลย ตั้งใจกลับมารับผิดชอบทั้งหมด” นายเต้ยกล่าว พร้อมเผยว่าตนเป็นเพียงลูกจ้าง แต่ก็พร้อมรับผิดชอบแทนเจ้าของเรือ

ด้าน นางสาวสายพิณ คุ้มวณิชย์ อายุ 66 ปี เจ้าของบ้านหลังที่ 2 เล่าว่า เสียงชนดังเหมือนบ้านจะถล่มทับร่าง ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วมาก “ประตูเปิดไม่ได้ ต้องพาเด็กกับพี่สาวปีนออกหน้าต่างให้หลานพายเรือมารับ” เธอกล่าวด้วยเสียงสั่น เผยทั้ง 3 หลังเพิ่งซ่อมใหญ่ไปไม่กี่เดือน สูญเสียรวมหลายล้านบาท แถมยังมีญาติบางคนพลัดตกน้ำระหว่างชุลมุนหนีตาย

ขณะนี้ เจ้าหน้าที่กำลังเร่งตรวจสอบสภาพเรือ ระบบบังคับทิศทาง รวมถึงประเมินความเสียหายของบ้านทั้งสามหลัง พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเร่งด่วน เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุเรือเหล็กสั่นสะเทือนชุมชนครั้งนี้