จับชีพจรทุเรียนไทย จะโดนโค่นบัลลังก์หรือไม่

จับชีพจรทุเรียนไทย จะโดนโค่นบัลลังก์หรือไม่ หลังศึกแย่งชิงตลาดจีนดุเดือด”

Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทย ประเมินว่า ตลาดส่งออกทุเรียนไทยไปจีนจะขยายตัว 19.3%CAGR (2565-2573) เป็น 22,162 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 7 แสนล้านบาท ในปี 2573 จากปัจจุบันที่ราว 1.2 แสนล้านบาท จากความต้องการบริโภคทุเรียนของชาวจีนที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี ส่วนแบ่งตลาดทุเรียนของไทยในจีนมีแนวโน้มลดลงจาก 95.9% ในปี 2564 เหลือ 90.4% และ 88.1% ในปี 2568 และปี 2573 ตามลำดับ จากการที่จีนสามารถปลูกทุเรียนได้เองและการส่งออกทุเรียนของประเทศคู่แข่งไปจีนมากขึ้น ได้แก่ มาเลเซีย และเวียดนาม ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบประมาณ 1.7-5.7 หมื่นล้านบาทต่อปี ในช่วงปี 2568-2573

Krungthai COMPASS แนะนำ หากผู้ประกอบการปลูกและค้าทุเรียนต้องการสร้างความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืนควรใช้หลัก D-U-R-I-A-N ได้แก่ D – Develop พัฒนาเทคโนโลยีการเพาะปลูกและบรรจุภัณฑ์ U – Unique นำเสนอเอกลักษณ์ของทุเรียนไทย R – Research เน้นการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ทุเรียนให้มีคุณภาพ I – Improve ปรับปรุงต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูง รวมทั้งขยายช่องทางการขายทุเรียนไทยผ่านระบบ e-Commerce มากขึ้น A – Assurance ภาครัฐควรมีบทบาทในการสร้างความเชื่อมั่นของระบบการผลิตตลอดห่วงโซ่อุปทานทุเรียน และ N – New market ขยายการส่งออกทุเรียนไปตลาดที่มีศักยภาพ เพื่อลดความเสี่ยงจากการส่งออกที่กระจุกตัวในตลาดจีน

Message us