
ที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินจังหวัดปทุมธานี ตำบลบางปรอก อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี นายสุปรีย์ แสงสว่าง ตัวแทน กลุ่มต่อต้านทุจริตคอรัปชั่น เดินทางมาติดตามความคืบหน้าการร้องเรียนให้ตรวจสอบโครงการขององค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีใน 13 โครงการใหญ่มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ที่สงสัยใช้จ่ายเงินงบประมาณที่มีพฤติการณ์เชื่อได้ว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมีการทุจริต อาจใช้งบประมาณไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไข และเดินทางไปที่สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดปทุมธานี เพื่อติดตามความคืบหน้าเรื่องการร้องเรียนในโครงการที่สงสัยเอื้อทุจริตการใช้จ่ายเงินงบประมาณ โดยมี นายยุทธพัฒน์ เศรษฐวชิรา พนักงานไต่สวนระดับกลางออกมารับเรื่อง
นายสุปรีย์ แสงสว่าง ตัวแทน กลุ่มต่อต้านทุจริตคอรัปชั่น เปิดเผยว่า ทางกลุ่มได้ดำเนินการเข้าไปตรวจสอบโครงการหลายโครงการของ อบจ.ปทุมธานี ภายใต้การบริหารของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี หลังได้รับร้องเรียนจากประชาชนในจังหวัดปทุมธานีที่ต้องการให้กลุ่มต่อต้านทุจริตคอรัปชั่น เข้าไปตรวจสอบโดยทางกลุ่ม ได้ยื่นหนังสือต่อ สตง.ปทุมธานี และ ป.ป.ช.ปทุมธานีไปแล้วก่อนหน้านี้ โดยวันนี้ ได้เข้าไปที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินประจำจังหวัดปทุมธานี เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบโครงการของ อบจ.ปทุมธานี กว่า 13 โครงการมูลค่ากว่า 300ล้านบาทว่า ดำเนินการถึงขั้นไหนแล้ว ก็ได้รับคำตอบว่า เนื่องด้วยผู้บริหารของอบจ.ปทุมธานี อยู่ในตำแหน่งระดับสูงเกินกว่าอำนาจของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินประจำจังหวัดปทุมธานี จึงส่งเรื่องไปที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินภาค 1 จังหวัดนครปฐมเพื่อทำการตรวจสอบต่อไป

จากนั้น กลุ่มต่อต้านทุจริตคอรัปชั่น นำโดย นายสุปรีย์ แสงสว่าง พ.ต.ท.ดร.ณรงค์ ศรีสุวรรณ อดีตรอง ผบก.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ ที่ปรึกษากลุ่มต่อต้านทุจริตคอรัปชั่น ดร.ธนภัทร พุฒซ้อน ที่ปรึกษากลุ่มต่อต้านทุจริตคอรัปชั่น ได้ร่วมกันแถลงข่าว ถึงโครงการของอบจ.ปทุมธานีที่มีพฤติการณ์ควรเชื่อได้ว่ามีการทุจริตเกิดขึ้น คือ 1.โครงการจัดซื้อวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธ์ 200,000 โดส มูลค่ากว่า 56 ล้านบาท เงินจำนวนดังกล่าวเป็นงบกลางงบฉุกเฉิน เป็นเงินสำรองจ่าย เพื่อไว้ใช้จ่ายในกรณีฉุกเฉิน ที่มีสาธารณภัยเกิดขึ้นหรือกรณีการป้องกันยับยั้งก่อนเกิดสาธารณภัย แต่การจัดซื้อวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ของอบจ.ปทุมธานี ไม่ถือเป็นกรณีฉุกเฉินเร่งด่วนที่มีสาธารณภัยเกิดขึ้น และไม่ได้มีลักษณะเป็นการบรรเทาทุกข์จากภัยธรรมชาติ วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ดังกล่าวกระทรวงสาธารณสุขมีการดำเนินการฉีดให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยงเป็นปกติมาอย่างต่อเนื่องเป็นประจำอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นเร่งด่วน
นอกจากนั้น จังหวัดปทุมธานีในปี 2567 เป็นจังหวัดที่ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่อยู่ในลำดับที่ 29 ของประเทศ ซึ่งในจังหวัดที่มีคนติดเชื้อไข้หวัดลำดับที่ 1 ถึง 28 ก็ไม่มีจังหวัดใดขององค์การบริหารส่วนจังหวัดดำเนินการจัดซื้อวัคซีนอย่างเช่นองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ประกอบกับกระทรวงสาธารณสุขได้จัดเตรียมวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ไว้ให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยงจำนวน 4,500,000 โดสจึงพอเพียงกับความต้องการของประชาชน ไม่ใช่ภารกิจหน้าที่โดยตรงขององค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี จะต้องดำเนินการจัดซื้อวัคซีน และวิธีคัดเลือกในการจัดซื้อวัคซีนก็เป็นวิธีเจาะจงเลือก บริษัท เค ที เอฟ กรุ๊ปจำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความสัมพันธ์กับผู้บริหารท้องถิ่นและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เป็นบริษัทที่ไม่ได้มีความชำนาญเกี่ยวกับเรื่องวัคซีนแต่กลับได้รับพิจารณาจัดซื้อวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้กับองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี จึงน่าสงสัยในการจัดซื้อวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ เมื่อตรวจสอบคุณสมบัติบริษัทคู่เทียบทั้ง 2 บริษัทแล้ว มีวัตถุประสงค์ขายปลีกสินค้าทางเภสัชภัณฑ์และทางการแพทย์แต่ไม่สามารถเข้ารับการคัดเลือกได้เนื่องจากมีทุนจดทะเบียนไม่ถึง 15 ล้านบาท

ทั้งนี้ ตนตั้งข้อสงสัยว่า ผู้บริหารบริษัทเค ที เอฟ กรุ๊ป มีความเกี่ยวพันกันอย่างไรกับพลตำรวจโท คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ที่ผ่านมามีภาพไปร่วมงานกันทุกงานที่ อบจ.ปทุมธานีจัดขึ้น รวมถึงเดินทางไปต่างประเทศร่วมกันพบปะกันเป็นประจำเมื่อมีงานก็จะปรากฏตัวพร้อมถ่ายภาพร่วมกันเสมอ ตลอดจนงานกิจกรรมของอบจ.ปทุมธานีก็ไปร่วมทุกครั้งปรากฏตามภาพถ่ายที่ส่งไปให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินและสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริต ได้ตรวจสอบ
2.โครงการศึกษาความเป็นไปได้ของการก่อสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรล ที่เบิกเงินค่าศึกษาโครงการไปแล้ว 120 ล้านบาท การนำเงินไปศึกษาโครงการดังกล่าวจึงไม่เป็นไปตามความต้องการของประชาชน
3.โครงการจัดเลี้ยงอาหารกลางวันแก่ข้าราชการพนักงานลูกจ้างองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี นับตั้งแต่พลตำรวจโทคำรณวิทย์ เข้ารับตำแหน่งเมื่อปีพ.ศ 2564 ได้สั่งการให้เริ่มมีโครงการจัดเลี้ยงอาหารกลางวันแก่ข้าราชการพนักงานลูกจ้างรวมทั้งประชาชนทั่วไป ที่มาติดต่องานรวมระยะเวลา 3 ปีกว่า โดยมีผู้รับจ้างทำอาหาร 2 ราย เปลี่ยนการทำอาหารคนละ 1 อาทิตย์ มีค่าใช้จ่ายทำอาหารวันละไม่ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อวัน 1 เดือนเท่ากับ 330,000 บาท 1 ปีเท่ากับ 3,960,000 บาท 3 ปีเท่ากับ 11,880,000 บาท โดยมีหลักฐานการโอนเงินจ่ายค่าทำอาหารแต่ละอาทิตย์บางส่วน โดยใช้ชื่อแจ้งการโอนเงินว่านางธัญญาภรณ์ ไม่ทราบนามสกุลและผู้แจ้งข้อมูลการส่งเงินใช้ชื่อทางไลน์ว่า Bye Bye ซึ่งเป็นที่น่าสงสัยหมายถึง ลูกสาวพลตำรวจโทคำรณวิทย์ ซึ่งดำรงตำแหน่งเลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีในขณะนั้น จึงอยากให้สำนักงานปปช.ตรวจสอบการกระทำดังกล่าวอาจผิดต่อกฎหมายและระเบียบต่างๆหรือไม่อย่างไร

4.โครงการจัดซื้อแผ่นโฟมช่วยน้ำท่วม 2565 งบประมาณ 4,660,000 บาทจำนวน 2,000 แผ่น ราคาซื้อแผ่นละ 2,330 บาท แต่เอกชนทั่วไปซื้อ 1,682 บาท ต่างกัน 648 บาทต่อแผ่น มีส่วนต่างกว่า 1,296,000 ล้านบาท และยังพ่นชื่อพลตำรวจโทคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี
5.โครงการสอนภาษาอังกฤษออนไลน์ในช่วงโควิด 19 ปี 2564 งบประมาณ 15 ล้านบาท ไม่ได้เรียนจริงแม้แต่ชั่วโมงเดียวมีใครเกี่ยวข้องบ้าง
6.โครงการจัดซื้อพัดลมสำหรับโรงพยาบาลสนามในช่วงโควิด 19 โดยตั้งข้อสังเกตการจัดซื้อพัดลมขนาด 18 นิ้ว มีจริงหรือไม่คณะกรรมการตรวจสอบรับของคือใคร มีรูปภาพการตรวจรับหรือไม่ นำพัดลมที่ได้รับจากการบริจาคโดย บริษัท ฮาตาริบริจาคพัดลมจำนวน 500 ตัวไปเข้าโครงการจัดซื้อพัดลม สำหรับโรงพยาบาลสนามในช่วงโควิด 19 หรือไม่

นายสุปรีย์ กล่าวว่า ยังมีอีกหลายโครงการที่ส่อทุจริต จึงอยากให้ สตงและปปช.เร่งทำการตรวจสอบอย่างเร่งด่วน เพราะมีข้อน่าสงสัยในการจัดซื้อฯ มีทั้งให้บริษัทพรรคพวกหรือคนในครอบครัวมารับงาน มีการทำเอกสารเท็จ ปกปิดข้อมูลหรือไม่ ไม่เปิดประมูลทั่วไปแต่เน้นใช้วิธีเฉพาะเจาะจง ฮั้วประมูลหรือไม่ อบจ.เองบริหารสัญญาจนรัฐเสียเปรียบหรือไม่ ข้อสงสัยเหล่านี้ต้องมีการตรวจสอบ สำคัญที่สุดคือ ประชาชนต้องร่วมปกป้องผลประโยชน์ของท้องถิ่น สอดส่องสิ่งผิดปกติ
