“จุรินทร์”เขินหนักมากถูกสาวใหญ่โดดหอมแก้มกลางวงโชว์ผลงานช่วยเกษตรกร

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการประกันรายได้เกษตรกรและเป็นประธานในพิธีมอบเช็คชําระหนี้และมอบโฉนดที่ดินของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรให้แก่เกษตรกรจังหวัดชุมพร ที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาชุมพร อําเภอเมือง จังหวัดชุมพร พร้อมด้วยนายธีระชาติ ปางวิรุฬห์รักษ์ ผู้ช่วยเลขานุการรมว.พาณิชย์ นายอิสรพงษ์ มากอำไพ ส.ส.ชุมพร เขต 1 และขณะลงพื้นที่ มีประชาชนที่มาต้อนรับได้อวยพรให้นายจุรินทร์เป็นนายกรัฐมนตรีในสมัยหน้า นอกจากนี้ได้มีสาวชุมพรมาขอกอดและหอมแก้มกลางงาน และมีประชาชนรุมขอถ่ายรูปคู่กับนายจุรินทร์เป็นจำนวนมาก บรรยากาศสุดคึกคักเและเป็นกันเอง

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ภารกิจที่กระทรวงพาณิชย์ที่ตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ท่านรัฐมนตรีเฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็นรัฐมนตรีว่าการติดตามสถานการณ์ เรื่องที่หนึ่ง ดูแลเกษตรกรโดยเฉพาะภาคใต้ พืชเกษตรสำคัญคือ ยางพารา ปาล์มน้ำมันและผลไม้ สำหรับยางพาราราคาดีขึ้น ปีที่แล้วไปถึง 60 บาท/กก. ตอนนี้สถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลายความต้องการน้ำยางไปผลิตถุงมือยางจึงลดลง ล่าสุด ยางแผ่นดิบ 47-50บาท/กก. ขี้ยาง 21-23 บาท/กก. ถือว่าราคายังดี ส่วนปาล์มน้ำมันก่อนตนเข้ามากิโลกรัมละ 2 บาทกว่าหลายปี วันนี้ 4-6 บาท/กก. บางช่วงถึง 12 บาท/กก.

ทั้งนี้ เป็นธรรมชาติของราคาพืชผลเกษตรทุกประเทศในโลกเหมือนกันราคาไม่เสถียรขึ้นกับตลาดโลก ความต้องการและผลผลิตในโลก เป็นไปตามกลไกตลาดโลก เป็นที่มาของนโยบายประกันรายได้ เกิดขึ้นตอนที่ประชาธิปัตย์จะเข้าร่วมรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งเป็นเงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาล เข้าสู่ปีที่ 4 แล้ว เป็นหลักประกันรายได้ให้กับพี่น้องเกษตรกร ให้มีรายได้สองส่วนจากราคาที่ขายในตลาดและส่วนต่างจากรายได้ที่ประกัน โดยโอนเข้าบัญชี ธ.ก.ส.โดยตรง โครงการประกันรายได้พืชเกษตร 5 ชนิด ประกอบด้วย ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ปาล์มน้ำมันและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ให้พี่น้องชาวปักษ์ใต้ลืมตาอ้าปากได้ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา

นายจุรินทร์ กล่าวว่า จังหวัดชุมพรมีเกษตรกรผู้ปลูกยาง 50,000 ราย ได้เงินรวมเฉพาะส่วนต่าง 765 ล้านบาท เฉลี่ยครัวเรือนละ 16,235 บาท ปาล์มน้ำมันมี 61,000 ราย โอนเงินส่วนต่าง 3 ปีที่ผ่านมา 1,230 ล้านบาท ได้ส่วนต่างเฉลี่ยรายละ 20,000 บาทในช่วงที่ผ่านมา อย่างน้อยแม้ราคาพืชเกษตรปาล์ม ยางไม่เสถียร แต่ตราบเท่าที่มีรัฐบาลชุดนี้ จะช่วยประกันรายได้ให้พี่น้อง และกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 42 สมัยรัฐบาลชวนสอง (นายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2 ) เพื่อช่วยเกษตรกร 2 เรื่อง 1.ช่วยแก้ปัญหาหนี้สิน ไม่ให้เสียที่ดินไปเป็นของนายทุน โดยชดใช้หนี้กับกองทุนฟื้นฟูฯแทน เมื่อชำระครบจะคืนโฉนดให้กับเกษตรกร ซึ่งมีเกษตรกรขึ้นทะเบียนจนถึงวันนี้ 5,600,000 ราย แก้ปัญหาหนี้สินไปแล้ว 500,000-600,000 ราย และวันนี้ลดดอกเบี้ยให้กับสมาชิกกองทุนฟื้นฟูฯเหลือ 0%

นอกจากนี้ จะมีเงินฟื้นฟูพัฒนาชีวิตเกษตรกรให้กับกลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ ของบกองทุนฟื้นฟูฯ เพื่อนำไปลงทุนให้มีรายได้ยังชีพได้ สำหรับจังหวัดชุมพรช่วยเหลือพี่น้องมาแล้วให้เงินจัดการซื้อหนี้ช่วงที่ตนเข้ามาเป็นประธาน 168 ล้านบาท แก้ปัญหาหนี้เกษตรกรคืนโฉนดไปแล้ว 970 ราย ให้งบประมาณทำโครงการฟื้นฟูอีก 130 โครงการ เกือบ 100 ล้านบาท และวันนี้มาขึ้นทะเบียนเกษตรกรที่เป็นหนี้ เพิ่มอีก 1,134 คนในจังหวัดชุมพร ซึ่งเกษตรกรคือหัวใจสำคัญในการแก้ปัญหาเพราะเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ

“และเรื่องปุ๋ยที่บ่นว่าแพง ซึ่งแพงมา 1-2 ปีเพราะราคาน้ำมันโลกแพงขึ้นมาก โดยเฉพาะราคาแก๊สในตลาดโลก แก๊สคือวัตถุดิบในการทำปุ๋ย ปุ๋ยต้องนำเข้า 100% ประเทศไทยผลิตเองไม่ได้ ราคาจึงขึ้นอยู่กับตลาดโลก ที่ผ่านมาราคาขึ้นไปหลายร้อยเปอร์เซ็นต์ ทำให้ต้นทุนปุ๋ยแพงและต้องนำเข้าโดยใช้น้ำมันขนส่ง ซึ่งตนพยายามปรับปรุงโครงสร้างราคาใหม่ลดกำไรลง แต่ต้องให้ผู้นำเข้าอยู่ได้ด้วย ไม่ให้ปุ๋ยขาดตลาด สำหรับเรื่องปุ๋ยขาดแก้ได้พอสมควรเพราะตนเจรจากับซาอุดีอาระเบียได้ปุ๋ยมา 450,000 ตัน และอีกไม่กี่วันนี้จะเจรจากับจีนเพราะก่อนนี้จีนห้ามส่งออกปุ๋ย ตนจะไปเจรจาเป็นพิเศษ เพื่อขอนำเข้าและอีกประเทศคือคาซัคสถาน ซึ่งเป็นประเทศผลิตปุ๋ย เพื่อนำปุ๋ยช่วยแก้ปัญหาไม่ให้ขาดแต่ปุ๋ยแพงทั้งโลกยังแพงอยู่ แต่ราคาแก๊สกับน้ำมันเริ่มลดลง จะเห็นว่าปุ๋ยเริ่มราคาลดลงจากการติดตามราคาพบว่า ปุ๋ยราคาลดลง ยูเรียลดลง 18% เมื่อเทียบกับช่วงที่ราคาสูง และสูตร 21-0-0 ที่ใช้กับปาล์มน้ำมัน ลดลงประมาณ 25% ซึ่งพวกตนคิดถึงพี่น้อง รัฐบาลนี้ไม่ทิ้งจะพยายามช่วย ให้เดือดร้อนน้อยที่สุดและพยายามสร้างรายได้พืชผลเกษตรให้ดีขึ้นเพื่อชดเชยกับรายจ่ายที่เพิ่มขึ้น และสุดท้ายยังมีประกันรายได้เพื่อให้พี่น้องพอลืมตาอ้าปากได้ หากมีมาตรการอื่นตนก็ยินดีที่จะเข้ามาช่วยดูแล” นายจุรินทร์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากติดตามความคืบหน้าโครงการประกันรายได้เกษตรกรที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาชุมพร นายจุรินทร์ได้นำคณะ ตรวจติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าที่ตลาดสดเทศบาลเมืองชุมพร อําเภอเมือง จังหวัดชุมพรต่อ โดยเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่มีร้านอาหารและของขายเป็นจำนวนมาก พบว่าสินค้าหลายรายการมีราคาถูกลงเช่น เนื้อสัตว์และผักสด ซึ่งได้รับการตอบรับจากชาวบ้านและพ่อค้าแม่ค้าในตลาดเป็นอย่างดี หลายคนมาขอถ่ายรูปและบางรายนำอาหารพื้นบ้านให้นายจุรินทร์กลับไปรับประทานด้วย

Message us