เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. ร่วมต้อนรับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในโอกาสตรวจการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูง ณ บริเวณสะพานภานุพันธ์ คลองโอ่งอ่าง เขตพระนคร จากนั้นตรวจการปรับปรุงภูมิทัศน์และการเดินเรือไฟฟ้าคลองผดุงกรุงเกษม ลงเรือจากท่าเรือตลาดเทวราชถึงท่าเรือหัวลำโพง โดยมี นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯกทม. นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร สำนักการระบายน้ำ สำนักการจราจรและขนส่ง สำนักการโยธา สำนักงานเขตในพื้นที่ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมคณะ
นายชัชชาติ ได้รายงานการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูงว่า วันที่ 29 ต.ค.นี ระดับน้ำทะเลหนุนขึ้นสูง ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ที่ 1.27 ม.รทก. (เมตรเทียบกับระดับน้ําทะเลปานกลาง) วันนี้อยู่ที่ 1.25 ม.รทก. รวมกับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลลงมาจากทางเหนือจะอยู่ที่ประมาณ 2 เมตรกว่า แต่เมื่อเช้านี้อยู่ที่ 2.10 ม.รทก. แต่จริงๆ แล้วที่ผ่านมาระดับน้ำเคยสูงกว่านี้อยู่ที่ 2.32 ม.รทก. เนื่องจากปัจจุบันน้ำเหนือน้อยกว่าเดิม เมื่อเช้านี้เหลือ 2,700 ลบ.ม./วินาที (ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที) ที่ผ่านมาเคยมากกว่า 3,000 ลบ.ม./วินาที ถึงแม้ว่าน้ำทะเลจะหนุนสูงกว่าเดิมแต่น้ำเหนือไม่มาก ทำให้ภาพรวมแล้วระดับน้ำไม่สูงกว่าเดิม กทม. มีจุดฟันหลอ 76 จุด ที่ต้องเรียงกระสอบทราย ขณะนี้ดำเนินการเรียงแล้ว 100% แต่อาจจะมีบางจุดที่น้ำล้นเข้ามาบ้าง แต่เป็นช่วงสั้น เช่น บริเวณถนนพระราม 3 แต่พอน้ำลงเราก็ดูดออกหมด สถานการณ์โดยรวมขณะนี้ยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ขณะเดียวกันปีนี้ กทม. ได้งบประมาณในการทำเขื่อนถาวรตรงจุดฟันหลอ 14 จุด ขณะนี้ได้เริ่มหาตัวผู้รับจ้าง คาดว่าสถานการณ์จะดีขึ้นเรื่อยๆ จะเร่งดำเนินการในส่วนของจุดฟันหลอให้ดีที่สุด
สำหรับ คลองผดุงกรุงเกษม กทม. ได้ดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์มาอย่างต่อเนื่อง และมีการเดินเรือไฟฟ้าในคลองผดุงกรุงเกษม แต่มีการหยุดไปชั่วคราวในช่วงที่น้ำท่วม เนื่องจากต้องทำการพร่องน้ำทำให้การเดินเรือไม่สะดวก โดยในช่วงก่อนโควิดมีคนใช้บริการประมาณ 1,000 คนต่อวัน ขณะนี้ลดเหลือประมาณ 400 คนต่อวัน เนื่องจากเรือวิ่งน้อยลง รวมทั้งสภาพน้ำขึ้นน้ำลง หลังจากนี้จะพิจารณาเพื่อปรับความเหมาะสมอีกครั้ง สำหรับภูมิทัศน์การปรับปรุงดีขึ้นโดยเฉพาะบริเวณใกล้หัวลำโพง สภาพน้ำในคลองก็ดีขึ้น คลองทั้ง 2 แห่งอยู่ในสภาพดี สามารถนำไปเป็นตัวอย่างและขยายผลกับคลองอื่นๆ ของกรุงเทพมหานครได้ โดยเฉพาะคลองแสนแสบและคลองลาดพร้าว
