เมื่อวันที่ 3 เมษายน วันแรกของการรับสมัครส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ที่หอประชุมจำลอง ศรีเลขา โรงเรียนนราธิวาส อำเภอเมืองนราธิวาส บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เดินทางมารอก่อนเวลา คนแรกที่มาถึงเวลา 06.52 น. เป็นผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย เขต 5 จากนั้นพรรคต่าง ๆ ก็ทยอยกันมา อาทิ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคประชาชาติ พรรคเป็นธรรม พรรคภูมิใจไทย พรรคไทยสร้างไทย ส่วนใหญ่เป็นผู้สมัครหน้าเก่า ส่วนพรรคใหญ่ส่งผู้สมัครครบทั้ง 5 เขต ทาง กกต.นราธิวาส ได้จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกตรวจเอกสารเบื้องต้นก่อนการยื่นสมัคร โดยมีสภานักเรียนของโรงเรียนนราธิวาสมาร่วมสังเกตการณ์ด้วย ส่วนบริเวณโดยรอบสถานที่รับสมัครบรรดากองเชียร์และผู้สนใจทั่วไปมาติดตามการรับสมัครเป็นจำนวนมาก มีการจัดตำรวจคอยดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกการจราจร
นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้มาให้กำลังเจ้าหน้าที่และผู้สมัคร พร้อมร่วมกับผู้เกี่ยวข้อง อาทิ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส รองผู้บังคับหน่วนเฉพาะกิจนราธิวาส ผู้แทนหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน กองทัพเรือ เข้าสังเกตการณ์การรับสมัคร
นายเสน่ห์ รักรงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า จังหวัดนราธิวาส มี 5 เขตเลือกตั้ง มากกว่าการเลือกตั้งครั้งก่อนเมื่อปี 2562 คาดว่าปีนี้จะมีผู้มาสมัครรวมกว่า 70 คน มองว่าในพื้นที่การแข่งขันไม่รุนแรง และจะเป็นไปตามกฎ กติกา ระเบียบกฎหมาย เพราะทุกคนมีความเข้าใจแนวทางปฏิบัติหลัง กกต.นราธิวาส จัดประชุมเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการเลือกตั้ง ส.ส.เชิงสมานฉันท์
ทั้งนี้ ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 575,624 คน (เดิม 550,645) หน่วยเลือกตั้ง 955 หน่วย (เดิม 927) เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรก (นิวโหวตเตอร์) ประมาณ 20,000 คน คาดว่าจะมีผู้ออกมาใช้สิทธิ 84-85 เปอร์เซ็นต์ สูงกว่าเมื่อปี 2562 ซึ่งอยู่ที่ 79.08 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ ทาง กกต.นราธิวาส ได้สร้างความเข้าใจกระตุ้นให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ผ่านช่องทางประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ อาทิ เพจเฟซบุ๊ก หอกระจายข่าว สื่อกรมประชาสัมพันธ์ เป็นต้น
ด้าน นายอัฟฟาน หะยียูโซะ ผู้สมัคร พรรคประชาชาติ เขต 1 เบอร์ 4 เปิดเผยว่า บรรยากาศรู้สึกว่าดีมาก ไม่เคยเจอบรรยากาศอย่างนี้มาก่อน เป็นครั้งแรกในชีวิต รู้สึกตื่นเต้นมากและก็ขอขอบคุณทุกๆคน ที่ทำให้ได้แรงบันดาลใจเยอะมาก ปัจจุบันชาวบ้านเข้าใจบริบทของการเมืองมากขึ้น มั่นใจในครั้งนี้ ประชาชนจะแลนสไลด์ตนจะได้เข้าสภาแน่นอน ถ้าตนได้เข้าสภา จะเป็นกระบอกเสียงให้กับประชาชนในพื้นที่ไม่มีทางที่จะไปนั่งอยู่เฉยๆ ไม่พูดอะไร วันนี้มีความตั้งใจเปลี่ยนแปลงนราธิวาส จากสมัยก่อนเป็นจังหวัดที่เจริญ จังหวัดหนึ่งของประเทศไทย พอมาปัจจุบันเป็นจังหวัดที่ยากจนมากที่สุด ถ้าได้เข้าไปมีอำนาจจะเข้าไปเปลี่ยนแปลงเพราะมีความมั่นใจเกินร้อย
ข่าว/ภาพ : แวดาโอ๊ะ หะไร ผู้สื่อข่าวจังหวัดนราธิวาส
