เมื่อวันที่ 21 เมษายน นายบุญเลิศ เนตร์ขำ นายอำเภอหนองแค เปิดเผยว่า ได้รับรายงานว่ามีการโฆษณาในสื่อออนไลน์ประกาศขายบุหรี่ ตลอด 24 ชั่วโมง ในเขตพื้นที่อำเภอหนองแค ประกอบกับพลเมืองดีได้แจ้งเบาะแสการลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าดังกล่าว ตนพร้อมด้วยพันตำรวจเอกสุรเชษฐ์ แสนวงศ์สิริ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหนองแค สั่งการให้ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงอำเภอหนองแค สาธารณสุขอำเภอหนองแค เจ้าพนักงานตำรวจ สภ.หนองแค พร้อมด้วยกำลังสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนอำเภอหนองแคที่ 4 ชุดเฉพาะกิจ อำเภอหนองแค ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และดำเนินการตามกฎหมาย โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 1ราย พร้อมของกลางจำนวนมาก
นายอำเภอหนองแค กล่าวต่อว่า การปฏิบัติการครั้งนี้ สืบเนื่องจากได้รับเบาะแสจากพลเมืองดี ที่มีความกังวลต่อผลกระทบที่เกิดจากบุหรี่ไฟฟ้าโดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน อีกทั้ง ได้มีการประชาสัมพันธ์ในสื่อออนไลน์ว่าเปิดขายบุหรี่ไฟฟ้าตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอย่างชัดเจน จึงได้มอบหมายให้ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงอำเภอหนองแค สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษกองอาสารักษาดินแดนอำเภอหนองแคที่ 4 เพิ่งลงพื้นที่ และสามารถจับกุมผู้ต้องหา 1 ราย พร้อมของกลาง รายละเอียด ดังนี้ 1) หัวพอท(อุปกรณ์ส่วนควบ) จำนวน 575 ชิ้น 2) คอยล์(อุปกรณ์ส่วนควบ) จำนวน 110 ชิ้น 3) แท้งค์ (อุปกรณ์ส่วนควบ) จำนวน 3 ชิ้น
4) บุหรี่ไฟฟ้าชนิดสูบแล้วทิ้ง จำนวน 438 ชิ้น 5) น้ำยาสำหรับเติมขนาดบรรจุ 60 มิลลิลิตร จำนวน 13 ขวด 6) น้ำยาสำหรับเติมขนาดบรรจุ 65 มิลลิลิตร จำนวน 15 ขวด 7) น้ำยาสำหรับเติมขนาดบรรจุ 100 มิลลิลิตร จำนวน 6 ขวด 8) น้ำยาสำหรับเติมขนาดบรรจุ 30 มิลิลิตร จำนวน 131 ขวด 9 )เครื่องบุหรี่ไฟฟ้าชนิดแบบเติมน้ำยา 13 ชิ้น มูลค่ารวม โดยประมาณ 234,570 บาท โดยแจ้งข้อหา “ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคขายสินค้าที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคสั่งห้ามขาย(บุหรี่ไฟฟ้า) ที่ 9/2558 และผู้ใดซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นสิ่งของต้องห้ามนำเข้าในราชอาณาจักร” และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.หนองแค เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
“บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อสังคมอย่างมาก ซึ่งอำเภอหนองแคได้ให้ความสำคัญในการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าบุหรี่ไฟฟ้าส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายผู้สูบเป็นอย่างมาก อาทิ การก่อให้เกิดมะเร็งปอด เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมองและโรคปอดอักเสบเฉียบพลัน ซึ่งแน่นอนว่าปัญหาดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อทั้งตัวผู้สูบ ครอบครัว และชุมชนในระยะยาวอย่างแน่นอน จึงต้องดำเนินการจับกุมอย่างจริงจังและเด็ดขาด ทั้งนี้ ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกคนในความร่วมมือร่วมใจในการปฏิบัติการครั้งนี้ และขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนทุกท่านช่วยเป็นหูเป็นตา ระแวดระวังบ้านเมืองของเรา หากพบเห็นเบาะแสการลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า หรือยาเสพติด รวมทั้งการกระทำความผิดทุกรูปแบบ สามารถแจ้งข้อมูล และร้องเรียนร้องทุกข์ได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ สายด่วน 1567 โทรฟรีตลอด 24 ชั่วโมง” นายบุญเลิศฯ กล่าว
