ปลัดมท.ชวนใส่ผ้าไทยไปลอยกระทง-กำชับทุกจังหวัดดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มข้น

เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงการจัดกิจกรรมเทศกาลวันลอยกระทงในปีนี้ว่า กระทรวงมหาดไทยได้แจ้งให้ทุกจังหวัดเชิญชวนให้ผู้เข้าร่วมงานกิจกรรมสวมใส่ผ้าไทยภายใต้แนวคิด “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” มาร่วมกิจกรรมวันลอยกระทงในรูปแบบ “สืบสานวิถีไทย ใส่ใจความปลอดภัย ห่างไกลอบายมุข” พร้อมทั้งสั่งการให้เฝ้าระวังการกระทำความผิดทุกรูปแบบ ทั้งในสถานบริการ สถานที่ประกอบธุรกิจโรงแรม สถานที่จัดงาน และสถานที่อื่น ๆ การควบคุมกวดขันในเรื่อง อาวุธปืน วัตถุระเบิด ยาเสพติด และการละเมิดกฎหมายที่อาจก่อให้เกิดภัยสังคม ความเดือดร้อนรำคาญ หรือ อาจขัดต่อภาพลักษณ์ และวัฒนธรรมอันดีของประเทศไทย รวมทั้งเพิ่มมาตรการทางด้านปกครอง มาตรการป้องกันปัญหาอัคคีภัยในสถานบริการ และมาตรการควบคุมโรคโควิด – 19 รวมถึงมาตรการควบคุมการขายและบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังได้ขอความร่วมมือสำนักงานตำรวจแห่งชาติบูรณาการเพิ่มความเข้นข้นในการควบคุมสถานบริการ หรือ สถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการอีกด้วย

ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยได้มีนโยบายลดอบายมุข สร้างสุขให้สังคม โดยดำเนินการกับสถานบริการ สถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ โรงแรม ที่พัก รวมถึงการควบคุม ร้านจำหน่ายสุราที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อน ที่อาจก่อให้เกิดภัยสังคมขัดต่อภาพลักษณ์ และวัฒนธรรมอันดีของประเทศไทย หรืออาจส่งผลเอื้อต่อปัญหายาเสพติด และมาตรการด้านการรณรงค์ปลูกจิตสำนึก เพื่อสร้างความปลอดภัยสาธารณะให้เกิดขึ้นในสังคมไทย โดยในช่วงเทศกาลวันลอยกระทง และวันลอยกระทงซึ่งตรงกับวันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน 2565 ซึ่งคาดว่าจะมีพี่น้องประชาชน หรือ นักท่องเที่ยวเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวจำนวนมาก อาจมีสถานบริการ หรือ สถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ โรงแรม รวมถึงสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรมจัดกิจกรรมประเพณีลอยกระทง มีการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายที่ก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินหรืออาจได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสียชีวิตของผู้มาใช้บริการ และส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยจึงได้สั่งการให้ทุกจังหวัดดำเนินการ 4 เรื่อง ดังนี้ 1. ให้ทุกจังหวัดและอำเภอ จัดชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว ตรวจตรา และเข้มงวดกวดขันผู้รับอนุญาตตั้งสถานบริการ ผู้ประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม รวมถึงผู้ที่จัดกิจกรรมประเพณีลอยกระทง ให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการป้องกันไม่ให้มีการพกพาอาวุธ วัตถุระเบิด และยาเสพติด เข้าไปในสถานที่จัดงาน และการป้องกันไม่ให้มีการกระทำเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ การค้าประเวณี และความผิดเกี่ยวกับเพศในพื้นที่ 2. รณรงค์ให้จัดกิจกรรมประเพณีลอยกระทงในรูปแบบ “สืบสานวิถีไทย ใส่ใจความปลอดภัย ห่างไกลอบายมุข” เพื่อให้เป็นกิจกรรมที่ปลอดสุราและปลอดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ รณรงค์ให้ผู้เข้าร่วมงานกิจกรรมสวมใส่ ผ้าไทยภายใต้แนวคิด “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” และขอความร่วมมือผู้เข้าร่วมกิจกรรมแต่งกายให้มิดชิดโดยคำนึงถึงกาลเทศะ รวมถึงการกำกับ และควบคุมมิให้มีการแสดงไปในทางลามกอนาจาร ควบคู่กับการรณรงค์ให้ใช้วัสดุจากธรรมชาติในการทำกระทง เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

3. ให้แจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ตรวจสอบระบบความปลอดภัย และระบบป้องกัน อัคคีภัยของอาคารที่ใช้เป็นสถานบริการ ร้านอาหาร โรงแรม สถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรมในพื้นที่ หรือ สถานที่จัดกิจกรรมงานเทศกาลวันลอยกระทง รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบกิจการคำนึงถึงความปลอดภัย ของวัสดุอุปกรณ์ที่จะนำมาใช้ประกอบการแสดงดนตรี หรือ การแสดงอื่นใดเพื่อความบันเทิง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ที่จะเกิดขึ้นและสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้เข้าใช้บริการ และ 4. ให้ทุกจังหวัดประชาสัมพันธ์ให้ผู้ดำเนินกิจการสถานบริการหรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการ ในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ โรงแรม และสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม ให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ และมาตรการด้านสุขลักษณะป้องกันความเสี่ยงจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 เพื่อป้องกันมีให้มีการแพร่ระบาดของโรคจากการใช้บริการ ในสถานที่ดังกล่าว

ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่อว่า เพื่อป้องกันไม่ให้พี่น้องประชาชน หรือ นักท่องเที่ยวที่เข้าร่วมกิจกรรมในสถานบริการ สถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ หรือ โรงแรม ในช่วงเทศกาลวันลอยกระทงได้รับความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน หรือ การได้รับบาดเจ็บ หรือ สูญเสียชีวิต ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม กระทรวงมหาดไทยยังได้ประสานความร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอความร่วมมือให้เข้มงวดกวดขันสถานบริการ หรือ สถานประกอบการ ที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการให้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. 2509 คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 22/2558 ลงวันที่ 26 กรกฎาคม 2558 และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุข ได้ประกาศยกเลิกโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โรคโควิด-19 จากโรคติดต่ออันตราย เป็นโรคติดต่อเฝ้าระวังแล้วก็ตาม แต่การจัดกิจกรรมวันลอยกระทง ย่อมมีการรวมกลุ่มของบุคคลจำนวนมาก ในสถานที่จัดงานซึ่งอาจส่งผลให้มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ได้ จึงต้องมีการเน้นย้ำขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนให้ช่วยป้องกันตัวเองตามหลัก Universal Prevention และปฏิบัติตามมาตรการ DMHTT (D เว้นระยะห่าง M สวมใส่หน้ากาก H ล้างมือบ่อย ๆ T ตรวจวัดอุณหภูมิ และ T ตรวจค้นหาเชื้อหากมีความเสี่ยง) พร้อมขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนให้ระวังอันตรายจากมิจฉาชีพทุกรูปแบบที่อาจแฝงตัวเป็นพลเมืองดี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุอันตรายแก่ร่างกาย ชีวิตและทรัพย์สิน หากเกิดอันตราย หรือพบเห็นผู้มีพฤติกรรมที่อาจก่อให้เกิดภัยอันตรายแก่สังคมส่วนรวม ขอให้แจ้งเหตุ หรือแจ้งเบาะแสได้ที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ หรือที่โทรศัพท์สายด่วนต่าง ๆ อาทิ แจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายที่สายด่วน 191 แจ้งเบาะแสการกระทำผิด สายด่วน 1567 แจ้งเหตุนิรภัยต่าง ๆ ไฟไหม้ พลัดตกน้ำ สายด่วน ปภ. 1784 แจ้งเหตุรถโดยสาธารณะ 1584 หรือ แจ้งเหตุแพทย์ฉุกเฉิน โทร 1669 ซึ่งทุกสายโทรฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง


Message us