ผบ.ตร.แสดงความเสียใจครอบครัวผู้สูญเสียเหตุกราดยิงในศูนย์เด็กเล็กหนองบัวลำภู

เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. บินด่วนลงพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู พร้อมด้วย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. เพื่อติดตามสถานการณ์เหตุคนร้าย เข้าไปก่อเหตุกราดยิงใน อบต.เขตอำเภอนากลาง จ.หนองบัวลำภู

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ เปิดเผยว่า ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้สูญเสียทุกราย เบื้องต้นทราบว่าคนร้าย คือ ส.ต.อ.ปัญญา คำราบ เป็นตำรวจนอกราชการ ได้ก่อเหตุให้อาวุธปืนยิงประชาชน และเด็กเล็ก ที่ศูนย์เด็กเล็กใน อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตประมาณ 31 ราย อยู่ระหว่างการรักษาตัวอีกเป็นจำนวนมาก

สำหรับ ส.ต.อ.ปัญญา อดีตเคยรับราชการอยู่ที่ สภ.นาวัง จ.หนองบัวลำภู มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ถูกจับกุมตัวพร้อมของกลางยาบ้า และ ภ.จว.หนองบัวลำภู มีคำสั่งให้ออกจากราชการแล้ว

ทั้งนี้ ส.ต.อ.ปัญญา คำราบ เป็นอดีต ผบ.หมู่ (ป) สภ.นาวัง เกิดเมื่อ 4 มิถุนายน 2531 บรรจุเป็นข้าราชการตำรวจ เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2555 ตำแหน่ง ผบ.หมู่ (ป.) สน.ยานนาวา ต่อมาย้ายมาดำรงตำแหน่ง ผบ.หมู่ (ป.) สภ.นาวัง เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2562

เมื่อย้ายมาที่ สภ.นาวัง เริ่มมีปัญหาทะเลาะกับแฟน เนื่องจากแฟนไม่ได้ย้ายมาอยู่ด้วยกัน และเริ่มมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจนร่างกายซูบผอม มีอารมณ์ฉุนเฉียว ซึ่งเพื่อนข้าราชการตำรวจต่างทราบดีและไม่มีใครอยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย เมื่อออกปฏิบัติหน้าที่ก็ไม่เชื่อฟังคำสั่งของผู้บังคับบัญชา มีอยู่ครั้งหนึ่งผู้บังคับบัญชาให้ไปปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยธนาคารออมสิน ส.ต.อ.ปัญญา ไม่ได้เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ กลับไปนอนอยู่ในรถซึ่งจอดไว้หน้าธนาคาร เมื่อผู้จัดการธนาคารออมสิน ได้ขอความช่วยเหลือโดยให้คุ้มกันการเคลื่อนย้ายนำเงินเข้าเครื่อง ATM กลับแสดงอาการไม่พอใจ ทำท่าจะชักปืนขู่ ทำให้ผู้จัดการต้องโทรศัพท์แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ

ต่อมา ส.ต.อ.ปัญญา ได้เริ่มคบกับ น.ส.หญิง ไม่ทราบนามสกุล ซึ่งทำงานเป็นพนักงานร้านคาราโอเกะ จากการตรวจสอบประวัติ น.ส.หญิง เคยเป็นแฟนกับ นายเดย์ (ไม่ทราบนามสกุล)ผู้ต้องหาคดียาเสพติดซึ่งขณะนี้ถูกจำคุกอยู่ที่เรือนจำจังหวัดหนองบัวลำภูเมื่อคบกับ น.ส.หญิง มักพาเพื่อนมามั่วสุมดื่มสุรา และส่งเสียงดัง ที่ห้องพักข้าราชการตำรวจเป็นประจำ เป็นที่เดือดร้อนรำคาญ แก่ข้าราชการตำรวจและชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งเมื่อเมาสุราแล้ว ส.ต.อ.ปัญญา จะชอบนำอาวุธปืนมายิง ทำให้ไม่มีคนกล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยว และเคยนำอาวุธปืนไปยิงสุนัข ของประชาชน จนต้องมีข้าราชการตำรวจไปไกล่เกลี่ยให้ไม่ดำเนินคดี

เมื่อเดือนกรกฎาคม 2564 ส.ต.อ.ปัญญา มั่วสุมดื่มสุราในห้องพัก และส่งเสียงดังรบกวน และได้มีเพื่อนข้าราชการตำรวจไปตักเตือนให้หยุด แต่ ส.ต.อ.ปัญญา กลับด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย และเข้ามาทำร้ายร่างกาย จนเป็นเหตุให้ทะเลาะวิวาทกัน และผู้บังคับบัญชาได้เรียกตัวมาทำทัณฑ์บนไว้

พ.ต.อ.สุวัฒชัย มะลิทอง ผกก.สภ.นาวัง (ในขณะนั้น) ได้เรียกเจ้าตัวมาสอบถาม และเจ้าตัวได้ยอมรับว่าได้เสพสารเสพติดตั้งแต่ตอนเรียนมัธยมแล้ว และรับปากกับผู้บังคับบัญชาว่าจะเลิกยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด จึงได้ทำการยึดอาวุธปืนประจำกาย ของ ส.ต.อ.ปัญญา ไว้ เพื่อป้องกันการก่อเหตุร้ายต่างๆ

ต่อมา สภ.นาวัง ได้ดำเนินการตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา ตามโครงการตำรวจสีขาว ไม่ไห้ข้าราชการตำรวจเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แต่ยังได้รับรายงานว่า ส.ต.อ.ปัญญา ยังมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และ ต่อมา เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2565 ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.หนองบัวลำภู ได้เข้าตรวจค้นจับกุม ปรากฏหลักฐานตามบันทึกจับกุม ในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน ส.ต.อ.ปัญญา ให้การรับสารภาพ

เมื่อถูกจับกุมได้ซักถาม ส.ต.อ.ปัญญา ได้ให้ถ้อยคำว่า “สูบยาบ้ามาตั้งนานแล้ว เมื่อก่อนมียาบ้าเป็นร้อยๆ เม็ดไม่เห็นมีใครมาจับกุม” อย่างไรก็ตาม ส.ต.อ.ปัญญา รับสารภาพว่ายาบ้าของกลางที่ชุดจับกุมพบเป็นของตนเอง โดยได้รับมาจากอดีตตำรวจนายหนึ่ง ซึ่งถูกไล่ออกจากราชการแล้ว เมื่อ ส.ต.อ.ปัญญา ถูกจับกุมและย้ายออกจากบ้านพักแล้ว ข้าราชการตำรวจ สภ.นาวัง รู้สึกผ่อนคลาย และทำงานโดยไม่มีความหวาดระแวงต่อเพื่อนร่วมงาน

Message us