เมื่อวันที่20 ต.ค.2565 น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ถึงเวลานี้เหลือเวลาอีกไม่นาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็จะหมดวาระแล้ว แต่สิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์จะทำ ก็คือออกพระราชกำหนดกู้เงินอีก 1 ล้านล้านบาท เพื่อนำมาใช้จ่าย ปัจจัยหลักมาจากรัฐบาลบริหารเศรษฐกิจล่มสลาย เก็บภาษีไม่เป็นไปตามเป้า ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ ต้องกู้เงินมาตลอด 8 ปีในการเป็นผู้นำรัฐบาล
“แน่นอน ว่าถึงจะเล่นการเมืองต่อหรือไม่ ไม่สำคัญเท่ากับสิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ ทิ้งไว้คือหนี้ก้อนโตหนี้มหาศาล ที่ทิ้งเป็นมรดกปาบให้กับประชาชน ทิ้งไว้ให้ลูกหลานใช้หนี้ แทนไม่มีที่สิ้นสุด สำคัญที่สุดคือกู้เงินมาแล้วไม่ก่อให้ เกิดประโยชน์ไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นได้ หวั่นใจว่ากู้เงินมาเพื่อให้พรรคพวกของ พล.อ.ประยุทธ์ได้ประโยชน์จากเงินกู้ของประชาชน”น.ส.ทัศนีย์ กล่าว
นอกจากนี้เงินกู้ก้อนนี้ จะเป็นเงินกู้ก้อนสุดท้ายของรัฐบาลนี้ หวั่นใจว่ารัฐบาลจะกู้เงินมาทำการเมืองมากกว่าใช้เพื่อประโยชน์ของประชาชน เพราะจากกติกาที่ออกมามีเพียง พล.อ.ประยุทธ์ ที่ใช้เงินงบประมาณได้ กลัวว่า พล.อ.ประยุทธ์จะใช้เงินภาษีของประชาชนเอื้อพวกพ้อง
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ชอบทวงบุญคุณจากประชาชน อ้างที่เสียสละตัวเองยึดอำนาจ จากรัฐบาลที่มาจากประชาชน อ้างทำเพื่อประเทศ แต่สุดท้ายพี่น้องประชาชนลำบากจากการบริหารประเทศของพล.อ.ประยุทธ์
น.ส.ทัศนีย์ กล่าวด้วยว่า พฤติกรรมที่แสดงออกของพลเอกประยุทธ์ ที่ผ่านมา ทางการแพทย์ชี้ชัดว่าเป็นโรคหลงตัวเอง แล้วไม่ยอมรับการรักษา น่ากลัวมากไม่ต่างจากคนเป็นโรคจิตแล้วไม่ยอมรับตัวเอง ไม่ยอมรับการบำบัด หากยังอยู่ในอำนาจต่อเป็นโชคร้ายของคนไทย หลายประเทศผู้นำที่บ้าอำนาจ จะส่งผลให้ประเทศล่มจมในที่สุดไม่ต่างจากคนโง่มีอำนาจคน ที่ลำบากคือประชาชน
ทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีความเหมาะสมที่จะมานั่งในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ต้น แต่ด้วยกติกาที่บิดเบี้ยว ที่เขียนขึ้นมาเองทำให้ได้เข้าสู่อำนาจ ล่าสุดพล.อ.ประยุทธ์ตั้งเป้าจะอยู่ให้ครบเทอม หากคิดแบบนั้นจริง คงมีแต่ประชาชนทีจะเดือดร้อน
“ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ยังคงดื้อด้านไร้จิตสำนึกที่ดี อยากอยู่ต่อประชาชนก็อยู่ไม่ได้แล้ว แต่หากจะเรียกร้องให้ ยุบสภาหรือลาออก ก็คงยากเพราะพล.อ.ประยุทธ์ สะกดคำว่า จิตสำนึกไม่ถูก ถ้าคิดถึงความรู้สึกและรักประชาชนอย่างที่พร่ำบอก แม้แต่นิดเดียว คงลาออกหรือ ยุบสภาไปนานแล้ว”น.ส.ทัศนีย์ กล่าว
