เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า กระทรวง พม. ได้มีการทำงานร่วมกับทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกตรวจตราขั้นต่ำเดือนละประมาณ 5 ครั้ง กับขอทาน ถ้าหากพิสูจน์แล้วว่า เป็นชาวต่างชาติ จะมีการส่งตัวกลับไปยังประเทศต้นทาง ถ้าหากตรวจพบว่าเป็นคนไทย จะมีวิธีการดำเนินการต่างกันไปจะส่งไปที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งที่ในความดูแลของกระทรวง พม. จากกนั้น จะมีการฝึกวิชาชีพ และสนับสนุนในการหางานทำ
ทั้งนี้ หนึ่งในเหตุผลที่ทางกระทรวง พม. ได้เข้าไปสอบถามกับผู้ทำการขอทาน มีบางท่านกลับเข้าสู่ระบบแล้ว แต่กลับออกมาทำการขอทานใหม่ ถ้าหากเป็นเช่นนั้นจะมีการดำเนินคดี สาเหตุหลักที่ผู้ทำการขอทานกลับมาขอทานซ้ำ มีอยู่ด้วยกัน 2 ประเด็น คือ 1) ค่าปรับในการถูกดำเนินคดีน้อยกว่ารายได้ที่ได้รับ และ 2) มีรายได้ดี เนื่องจากสาเหตุนี้ทำให้ผู้ทำการขอทานมีรายได้ดีจนกระทั่งทำให้ไม่กลัวการเสียค่าปรับ รู้สึกคุ้มค่าที่จะกลับมาทำการขอทานซ้ำ ทำให้เกิดความสงสัยว่ารายได้ดีของผู้ทำการขอทานมาจากไหน นั่นคือนักท่องเที่ยวและคนในสังคม เพราะสังคมไทยเป็นสังคมที่เอื้ออาทร มีความสงสาร ซึ่งผู้ทำการขอทานรูปแบบใหม่จะมีการใช้เด็กและสัตว์เลี้ยง หากพบว่าเป็นเด็กมาทำการขอทาน เราจะรีบดำเนินการเบื้องต้นคือพิสูจน์ว่าเด็กกับผู้ที่มาด้วยกันนั้นมีความสัมพันธ์เกี่ยวดองทางเครือญาติกันหรือไม่ ถ้าหากพบว่าไม่ใช่จะมีการดำเนินคดี
นายวราวุธ กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2557 สามารถจับผู้ทำการขอทานได้ประมาณเกือบ 8,000 คน ร้อยละ 30 เป็นชาวต่างชาติ ที่เหลือเป็นคนไทย แต่การที่มีขอทานวนเข้ามาอยู่เรื่อย ๆ และมีปริมาณเพิ่มขึ้น คงต้องขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนให้หยุดการให้ทาน เนื่องจากการสอบถามผู้ทำการขอทาน มักจะได้คำตอบเดียวกันว่ามีรายได้ดีและไม่ต้องเสียภาษี จะดำเนินการที่ใดก็ได้ ถ้าโดนจับไป จำนวนค่าปรับที่ต้องจ่ายก็น้อยกว่ารายได้ที่ได้รับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจำนวนขอทานที่พบมากที่สุดคือในกรุงเทพมหานคร ในพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวชุกชุมจำนวนมาก
“จากการสอบถามผู้ทำการขอทานเรื่องรายได้พบว่า ถ้าหากเป็นช่วงไฮซีซันเคยมีรายได้เกือบ 100,000 บาท โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวนมาก ด้วยความที่ไม่รู้ จะมีการให้กันอยู่เรื่อย ๆ รายได้ที่พบว่าเกือบ 100,000 บาท ไม่แน่ใจว่าเป็นรายได้คนเดียวหรือทำเป็นกลุ่ม การขอทานทุกวันนี้ บางครั้งมีการทำงานกันเป็นขบวนกา คนที่เป็นตัวการใหญ่จะต้องถูกดำเนินคดี ถ้าหากเราสามารถจับได้ว่ามีการใช้บุคคลใด หรือกลุ่มบุคคลใด มาทำการขอทาน มีการวางแผนว่าใครควรอยู่จุดไหน แล้วได้จำนวนเงินหลักหมื่น แต่ถ้าหากรวมรายได้กันหลายๆ คนเป็นกลุ่ม แล้วจะได้เงินเกือบ 100,000 บาท ส่วนด้านค่าปรับเมื่อถูกจับแต่ละครั้ง จะเริ่มต้นที่หลักพันจนถึงหลักหมื่น สมมุติถ้าหากรายได้เดือนละประมาณ 20,000 บาท แต่ถูกปรับ 5,000 บาท ยังเหลือรายได้อีก 15,000 บาท ในมุมมองของคนที่มาทำการขอทานถือว่าคุ้มค่า การที่เราให้ทานไปนั้น ก็เหมือนสนับสนุนให้มีผู้ทำการขอทานมากขึ้นดังนั้นอย่าให้”รมว.พัฒนาสังคมฯกล่าว
สำหรับ การผลักดันขอทานชาวต่างชาติออกนอกประเทศ แต่ยังมีการวนกลับมาทำการขอทานซ้ำ คงต้องขอความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะกระทรวง พม. ไม่สามารถไปตรวจตราตามเขตชายแดนได้ ต้องสอบถามไปยังหน่วยงานที่ดูแลเกี่ยวกับตรวจคนเข้าเมือง หรือตามช่องทางธรรมชาติ ว่าจะมีแนวทางในการดำเนินการอย่างไร เนื่องจากเจ้าหน้าที่ พม. มีหน้าที่ในการดูแล กรณีที่พบเจอผู้ทำการขอทานแล้ว ถ้าจะให้ไปอยู่ตามจุดผ่านแดนนั้นไม่สามารถทำได้ เนื่องจากกฎหมายไม่ได้ให้อำนาจไว้
