เมื่อวันที่ 12 พ.ค.เวลา 12.00 น. บรรยากาศบริเวณโรงานเฟอร์นิเจอร์คิงส์ ซอยฉลองกรุง 55 กทม. จุดเกิดเหตุเพลิงไหม้ ผ่านไปแล้วกว่า 18 ชั่วโมง โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัย กรุงเทพมหานคร จากหลายหน่วยงาน ระดมกำลังควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่ที่บริเวณชั้นใต้ดินของตัวโรงงานยังมีกลุ่มฟันพวยพรุ่งขึ้นมาอย่างหนาแน่น เจ้าหน้าที่ได้ปิดช่องไม่ให้ลมเข้าไปชั้นใต้ดิน บริเวณโซนด้านหน้าเพื่อไม่ให้ไฟได้ลุกโหมอีกในโซนด้านหน้า ส่วนบริเวณส่วนกลางของโรงงาน และส่วนท้าย เจ้าหน้าที่ใช้เครื่องจักรเข้ามาขุดเจาะกำแพงชั้นใต้ดินเปิดช่องให้เจ้าหน้าที่สามารถนำสายยางฉีดน้ำเข้าไปภายในชั้นใต้ดินที่เป็นต้นเพลิงซึ่งยังคงมีแสงเพลิงอยู่เป็นระยะ
นายสุริยชัย ระวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันบรรเทาสาธารณะภัยกรุงเทพมหานคร เปิดเผว่า อุปสรรคสำคัญ คือเป็นเรื่องของขนาดของโรงงานแห่งนี้ที่มีความยาวถึง 300 เมตร แม้ว่าไฟจะลุกไม่เต็มพื้นที่ แต่ก็ยังไม่สามารถที่จะควบคุมเพลิงได้บริเวณชั้นใต้ดิน จึงต้องเจาะผนังด้านข้างชั้นใต้ดิน ส่วนการจะฉีดเม็ดโฟมนั้นต้องประเมิน จากสถานการณ์อีกครั้งเพราะตอนนี้ต้องฉีดน้ำเข้าไปภายในให้ได้ก่อน
พ.ต.อ.อาณัติ อรรคสาร ผกก.สน.ฉลองกรุง กล่าวว่า ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ สามารถเข้าไปตรวจสอบยังพื้นที่ภายในได้เนื่องจากมีกลุ่มควันที่อยู่ชั้นใต้ดินที่หนาแน่น ประกอบกับความร้อนที่เผาไหม้สูงถึง 700 องศา ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญประเมินเรื่องโครงสร้าง เนื่องจากถูกความร้อนเผาไหม้นานอาจถล่มลงมา จึงต้องรอให้ทางเจ้าที่ดับเพลิงคุมเพลิงให้ได้เสียก่อน จากนั้นผู้เชี่ยวชาญจึงเข้าตรวจสอบโครงสร้างเจ้าที่พิสูจน์หลักฐานจึงจะเข้าที่เกิดเหตุได้
ด้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้โรงงาน ซอยฉลองกรุง 55 พร้อมเปิดเผยว่า เพิ่งกลับจากประชุมที่ประเทศญี่ปุ่น ลงเครื่องบินมาก็ตรงมาที่นี่เลย มองจากบนเครื่องบินก็เห็นกลุ่มควันพวยพุ่งจำนวนมาก ตรงนี้เป็นโรงงานเฟอร์นิเจอร์ มีเม็ดพลาสติกจำนวนมาก ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเพลิงไหม้ แต่ที่กังวลคือผู้คนที่อาศัยโดยรอบพื้นที่เกิดเหตุ เพราะมีกลุ่มควันหนาแน่นมากและมลภาวะมหาศาล โดยรอบ ๆ มีชุมชนริมคลองลำปลาทิว ประมาณ 140 หลังคาเรือน ได้ประกาศให้อพยพแล้ว ในส่วนสถานการณ์ล่าสุด เพลิงยังคงไม่สงบ คุกรุ่นอยู่ด้านในเพราะเข้าไปดับยาก แต่คุมเพลิงไว้ได้ในวงจำกัด โดยฉีดน้ำเลี้ยงเม็ดพลาสติกไว้
สำหรับ อุปสรรคสำคัญในการดับเพลิงคือความแคบของพื้นที่ ทำให้เข้าไม่ถึงจุดต้นเพลิง อีกทั้งภายในโกดังยังมีวัสดุที่ติดไฟง่าย เช่น เม็ดพลาสติก ไม้ และทินเนอร์ อยู่เป็นจำนวนมาก จึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี โดยในการปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่ได้นำรถน้ำทั้งขนาดเล็กและใหญ่ รวมกว่า 100 คัน จากเขตต่าง ๆ ทั่วกรุงเทพมหานคร มาระดมฉีดน้ำหล่อเลี้ยงเพื่อป้องกันไม่ให้ไฟลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียง
สำนักงานเขตลาดกระบัง เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้อาคารเก็บสินค้า ซอยฉลองกรุง 55 ทั้งหมด 4 แห่ง ได้แก่ 1. ลานอเนกประสงค์ โรงเรียนวัดลำพะอง ถนนฉลองกรุง แขวงลำปลาทิว 2. อาคารโรงยิม โรงเรียนวัดทิพพาวาส ซอยฉลองกรุง 53 แขวงลำปลาทิว 3. ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กชุมชนหมู่บ้านพัฒนาทิพพาวาส ซอยฉลองกรุง 53 แขวงลำปลาทิว และ 4. อาคารหอประชุมสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ถนนฉลองกรุง แขวงลำปลาทิว
นายชัชชาติ กล่าวว่า ศูนย์พักพิงชั่วคราวแห่งนี้จะรองรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้สามารถเข้าพักพิงได้ มีเจ้าหน้าที่เขตคอยอำนวยความสะดวกจัดที่นอนและน้ำดื่มไว้บริการ และศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉินกรุงเทพมหานคร (ศูนย์เอราวัณ) จัดทีมเจ้าหน้าที่ตรวจคัดกรองสุขภาพผู้ได้รับผลกระทบในเบื้องต้นขอให้ประชาชนในพื้นที่โปรดสวมหน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัด ระมัดระวังควันพิษจากเหตุเพลิงไหม้
