ยายตกใจไฟไหม้บ้านกลางดึกอุ้ม”พระแก้วมรกต-กระปุกออมสิน-ตระกล้าหมาก”หนีไม่คิดชีวิต

เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น.กลางดึกวันที่ 1 พ.ย. ร.ต.อ.เฉลิมชัย เณรธรณี รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.นางรอง  จ.บุรีรัมย์  ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุว่ามีเหตุเพลิงไหม้บ้านนางเย็น โสขวัญฟ้า ที่บ้านเลขที่ 30 หมู่ 1 บ้านผักหวานพัฒนา ต.ถนนหัก อ.นางรอง แต่นางเย็นไม่ได้อยู่บ้านเพราะไปอยู่กับญาติที่กรุงเทพฯ ไฟไห้ลุกลามไหม้บ้านที่อยู่ใกล้กัน จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลเมืองนางรอง , อบต.ถนนหัก และกู้ชีพ  กู้ภัย ในพื้นที่ใกล้เคียงไประงับเหตุ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบบ้านไม้ 2 ชั้น ถูกเพลิงไหม้อย่างรุนแรง  เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและหน่วยกู้ภัย  จึงได้ช่วยกันระดมฉีดน้ำสกัดเพลิง แต่เนื่องจากบ้านหลังดังกล่าวเป็นไม้เก่าทำให้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ประกอบกับมีลมกระโชกแรง ทำให้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็วจนบ้านหลังดังกล่าวได้รับความเสียหายทั้งหลัง ทั้งนี้ไฟยังได้ลุกลามไปไหม้บ้านหลังใกล้กันด้วยเจ้าหน้าที่ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่บ้านของนางเย็น ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมดแล้ว ส่วนบ้านที่อยู่ใกล้กันซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.ปล้อง เสาวพันธุ์ อายุ 68 ปี ก็ถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหายบางส่วนด้วย ทั้งนี้ยังมีน.ส.ฝน เสาวพันธุ์ อายุ 54 ปี  น้องสาวได้รับบาดเจ็บถูกกระจกบาดเท้าขณะขนของหนีไฟด้วย

สอบถามน.ส.ปล้อง เสาวพันธุ์  เล่าอย่างตกใจว่า ตนอยู่บ้านกับลูกหลานรวม 5 คน ช่วงเกิดเหตุทั้งตนและคนในบ้านนอนหลับแล้ว   แต่ได้ยินเสียงดังเหมือนไฟไหม้  จึงตกใจตื่นขึ้นมาดูก็พบไฟกำลังลุกไหม้บ้านน.ส.ปล้อง อย่างรุนแรง  และกำลังลามมาที่บ้านตนเอง ด้วยความตกใจจึงอุ้มเอากระปุกออมสิน  พระแก้วมรกต  เสื้อผ้าบางส่วน และตะกร้าหมากออกมาที่หน้าบ้าน เพราะกลัวไฟตะลุกลามไหม้เสียหาย ตนเองก็ไม่รู้ว่าไฟไหม้บ้านน.ส.ปล้องได้ยังไงเพราะไม่ได้อยู่บ้าน มีแค่ หลานชาย อายุ 20 ปี อยู่ที่บ้านแต่ไม่รู้ว่าตอนไฟไหม้นายเดชอยู่ในบ้านหรือไม่

ทั้งนี้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าเหตุเพลิงไหม้อาจจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร  จึงต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักเข้าตรวจสอบเก็บหลักฐานอีกครั้ง ส่วนมูลค่าความเสียหายก็ต้องรอเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบประเมิน

ข่าว/ภาพ : สุรชัย พิรักษา

Message us