เมื่อวันที่ 18 เมษายน พ.ต.อ.ถึงพร ปานทอง ผกก.สภ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชนในเขตตลาดเทศบาลตำบลเสิงสาง ข้างสถานีตำรวจภูธรอำเภอเสิงสางจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายไปยังที่เกิดเหตุเพื่อให้ความช่วยเหลือ พร้อมกับประสานศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเสิงสาง , หน่วยกู้ภัยฮุก 31 โคราช จุดอำเภอเสิงสาง และเจ้าหน้าที่อีกหลายหน่วยงานเข้าช่วยระงับเหตุที่บ้านเลขที่ 42 หมู่ 3 ตำบลเสิงสาง อำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา
จุดเกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น ชั้นบนเป็นไม้ ชั้นล่างเป็นปูน เรียงติดกัน 3-4 หลัง มีคนอยู่ในบ้าน 3 คน คือ ยายวัย 82 ปี และหลานชาย 1 คนกับหลานสาว 1 คน ซึ่งสติไม่ดีทั้งคู่ โดยเพลิงได้ลุกไหม้อย่างรุนแรง กำลังจะลามไปบ้านหลังที่ 2 เจ้าหน้าที่เร่งฉีดน้ำสกัดไม่ให้เพลิงลามไปหลังที่ 2 และหลังที่ 3 ใช้เวลากว่า 30 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไม่ให้ลามไปบริเวณข้างเคียงได้สำเร็จ
จากการสอบถาม นางสุภาณี คำศรี อายุ 5 1ปี เจ้าของร้านค้าติดกับบ้านต้นเพลิง เล่าว่า เห็นเปลวไฟลุกที่ห้องชั้นล่างของบ้านเกิดเหตุ หลังจากหลานชายของบ้านซึ่งสติไม่ค่อยดี ได้ร้องตะโกนวิ่งมาบอก จึงรีบไปดูเห็นเพลิงลุกไฟไหม้มาจากห้องชั้นล่างที่เด็กในบ้านมักจะเก็บตัวอยู่ในห้องดังกล่าวทั้งวัน จะออกมาจากห้องก็ตอนเย็นหรือเวลาที่หิวข้าวเท่านั้น จึงไม่แน่ใจว่า เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรจากการเปิดพัดลม เปิดโทรทัศน์ หรือเสียบปลั๊กทิ้งคาเอาไว้ หรือในห้องอาจจะทำอะไรให้เกิดประกายไฟ จนไหม้ลุกลามก็เป็นได้
ทั้งนี้ ตนจึงรีบตะโกนเรียกตำรวจที่อยู่ใน สภ.เสิงสาง ใกล้ๆกับจุดเกิดเหตุให้มาช่วยเหลือ จากนั้นก็มาช่วยกันคนละไม้ละมือ ขนของและขยับรถยนต์-รถมอเตอร์ไซค์ของลูกค้า และข้าวของจากบ้านหลังเกิดเหตุออกมาให้ ส่วนใครที่มีถังดับเพลิงก็รีบนำมาฉีดพ่น แต่สกัดเพลิงไม่อยู่ เพราะเป็นบ้านไม้จึงเป็นเชื้อเพลิงติดไฟอย่างดี ไฟจึงโหมไหม้อย่างรวดเร็วและรุนแรง แค่ไม่กี่นาทีก็ลามไหม้บ้านทั้งหลัง ตำรวจต้องรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ให้นำรถน้ำมาฉีดสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลามไปมากกว่านี้ ตนรู้สึกตกใจอย่างมาก ใจสั่นมือสั่นไปหมด ทำอะไรไม่ถูก
ด้านยายคำนาง ฝาชัยภูมิ อายุ 82 ปี ยายที่อยู่ในบ้านต้นเพลิง บอกว่า เห็นไฟไหม้ ตนก็รีบเดินออกมาจากตัวบ้าน พร้อมกับหลาน ตอนนั้นตนกำลังนอนอยู่ในบ้าน เห็นไฟลุกไหม้อยู่ แต่ไม่คิดว่าจะลามไหม้อย่างรวดเร็ว จึงคว้าได้แค่ตะกร้าใส่เสื้อผ้าออกมาเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ให้มาตรวจสอบหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้อย่างละเอียด ว่า เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรหรือเกิดจากสาเหตุอะไร ส่วนทางเทศบาลตำบลเสิงสาง จะให้การช่วยเหลือเยียวยาตามระเบียบราชการ และจะมีการตั้งเต็นท์ให้การช่วยเหลือ และเปิดรับบริจาคสิ่งของจากพี่น้องประชาชนเข้ามาช่วยบ้านที่ประสบเหตุ
ข่าว/ภาพ : ประสิทธิ ตั้งประเสริฐ ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครราชสีมา
