วุฒิสภาออกโรงจี้รัฐบาลเปิดประชุมสมัยวิสามัญถกปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา

เมื่อวันที่ 9 มิถุนยน ที่รัฐสภา นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิป วุฒิสภา) พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่ง นายบุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภา คนที่สอง พร้อมด้วย พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา สว. ฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหารและความมั่นคงของรัฐ นายอลงกต วรกี สว. ฐานะประธาน กมธ. ติดตามการบริหารงบประมาณ พล.ต.อ.กอบ อัจนากิตติ  นายวุฒิชาติ กัลยานมิตรนายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงษ์  ร่วมออกแถลงการณ์เพื่อเรียกร้องให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญเพื่อขอให้มีการเปิดอภิปรายทั่วไปในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา เกี่ยวกับปัญหาข้อพิพาทเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา

นายมงคล อ่านแถลงการณ์โดยย้ำถึงความสำคัญต่อการทำหน้าที่ของรัฐบาล ในการพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ เอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งอาณาเขตและเขตที่ประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 5  ดังนั้นรัฐบาลต้องปฏิบัติหน้าที่และใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญอย่างเข้มแข็งเพื่อรักษาไว้ซึ่งเกียรติภูมิของประเทศโดยรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย รวมถึงขอให้รัฐบาลยืนหยัดในการสงวนสิทธิไมม่ยอมรับเขตอำนาจของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ไอซีเจ)  ในกรณีที่มีข้อพิพาทตามสัญญาระหว่างประเทศ ตามมติ คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อ 12 มี.ค. 2567

นายมงคล อ่านแถลงการณ์ต่อวว่าวุฒิสภาขอเรียกร้องให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ  ดำเนินการกราบบังคมทูล เพื่อมีพระบรมราชโองการเรียกประชุมรัฐสภาเป็นการประชุมสมัยวิสามัญ เพื่อให้ฝ่ายบริหารได้แถลงข้อเท็จจริงทั้งหมด และเปิดโอกาสให้ สส.และ สว. ในฐานะผู้แทนปวงชนชาวไทย ได้ร่วมกันเสนอแนวคิดและแนวทางในการคลี่คลายสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อให้รัฐบาลได้นำไปเป็นข้อพิจารณาประกอบการตัดสินใจ โดยต้องกระทำอย่างเร่งด่วน ก่อนการเปิดสมัยประชุมสามัย ช่วงเดือนก.ค. นี้

“กรณีที่นายกฯ และครม. ริเริ่มทำเรื่องนี้มีความเหมาะสมและมีความสง่างาม รวมทั้งเป็นการแสดงความกล้าหาญ อันเป็นการส่งสัญญาณเชิงบวกต่อสาธารณชนว่ารัฐบาลไม่ได้เพิกเฉยหรือปัดความรับผิดชอบ แต่พร้อมเผชิญหน้าและดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาผ่านกลไกรัฐสภา” นายมงคล กล่าว

นายมงคล กล่าวตามแถลงกาณณ์ระบุว่า สว.ขอส่งกำลังใจไปยังข้าราชการทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่พิพาท ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญ เสียสละและเข้มแข็ง เพื่อรักษาเกียรติภูมิและศักดิ์ศรีของประเทศ ในการรักษาความมั่นคงตามแนวชายแดนและรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน  ด้วยความศรัทธาและเชื่อมั่น ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด ทั้งนี้ในสัปดาห์นี้คณะของสว. จะลงพื้นที่เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่ด้วย และไปรับฟังความคิดเห็น ไปสร้างความอบอุ่นใจให้กับประชาชน

ภายหลังอ่านแถลงการณ์  นายมงคล ให้สัมภาษณ์ว่า แถลงการณ์ดังกล่าวจะไม่ส่งเอกสารอย่างเป็นทางการไปยังรัฐบาลเพราะการแถลงถือเป็นสาธารณะและรับรู้โดยทั่วไปแล้ว สว.ไม่ได้กำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจนให้รัฐบาลดำเนินการ และขึ้นอยู่กับรัฐบาลจะพิจารณา  แต่หากทำโดยเร็วที่สุด ถือเป็นเรื่องดี เพราะสว.เป็นพลังที่จะช่วยสนับสนุนให้รัฐบาลได้มีความมั่นใจ มั่นคงว่า คนไทยทุกคนพร้อมที่จะร่วมมือร่วมใจกับรัฐบาล ในการรักษาประโยชน์และอำนาจอธิปไตยของประเทศไทย

เมื่อถามว่า การขอให้เปิดประชุมวิสามัญส่วนหนึ่งเพราะไม่ไว้ใจรัฐบาลที่ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวเจรจาแก้ปัญหาใช่หรือไม่ ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า เป็นคนละประเด็น ทั้งนี้ตนเชื่อว่าคนไทยทุกคนรักบ้านรักเมือง ทุกคนรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ

เมื่อถามว่า หากมีการเปิดสมัยประชุมสมัยวิสามัญ นอกจากเรื่องข้อพิพาทเรื่องเขตแดน จะมีเรื่องอื่นด้วยหรือไม่ เช่น พื้นที่ทับซ้อนทางทะเล นายมงคล กล่าวว่า ทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ประเทศชาติและประชาชน เป็นบูรณภาพของดินแดนไทย โดยคนไทยทุกคนต้องพึงรักษาไว้ และร่วมมือกันทุกฝ่าย สนับสนุนซึ่งกันและกัน เมื่อถามว่าหากไม่มีการเปิดสมัยประชุมจะมีการทำอย่างไรต่อไป นายมงคล กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ต้องว่ากันไปแล้วแต่สถานการณ์ เป็นดุลพินิจของรัฐบาล หากสามารถดำเนินการได้ด้วยตนเอง ก็อาจจะไม่ต้อง เพราะสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป อะไรๆ ก็เปลี่ยนได้

เมื่อถามว่า ขณะนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว ภายหลังเกิดการปรับกำลังพลออกจากพื้นที่ ฝั่งประเทศไทยยังวางใจได้หรือไม่ นายมงคล กล่าวว่า เป็นเพียงสถานการณ์เฉพาะพื้นที่ แต่ในหลักการจริงยังไม่มีความชัดเจน จึงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด และตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ถามย้ำว่า วุฒิสภาจะมีข้อเรียกร้องอย่างไร ถึงแนวทางการปฏิบัติของรัฐบาล เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ในอนาคตอีก นายมงคล กล่าวว่า จะใช้การปรึกษาหารือ เป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน เพราะคือผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ในฐานะที่เป็นองค์กรฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายบริหาร ต้องรับผิดชอบร่วมกัน

เมื่อถามถึงการจัดการสถานการณ์ในฝั่งไทยขณะนี้อย่างไร นายมงคล กล่าวว่า ในการทำงาน โดยเฉพาะความชัดเจนจากฝ่ายความมั่นคง และผู้ปฏิบัติในพื้นที่ มีความชัดเจน ส่งผลให้การตัดสินใจของฝ่ายบริหาร สามารถทำได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น  ทั้งนี้ไม่ใช่ว่าฝ่ายปฏิบัติหน้างานทำได้ดีกว่ารัฐบาล ทั้งนี้ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน ปรึกษาหารือกัน

เมื่อถามถึงกรณีมีข้อเสนอที่อยากให้สั่งไทยตัดไฟ ตัดท่อน้ำเลี้ยงของแก๊งคอลเซ็นเตอร์  นายมงคล กล่าวว่า เป็นเรื่องของหน้างาน และผลของการเจรจา เราไม่ได้สนับสนุน แต่ต้องการทำการภายใต้หลักเหตุและผล ทุกเรื่องมีเหตุมีผลของมันเอง เราคิดแค่ว่า คนไทยทุกคนพร้อมที่จะสนับสนุนรวมใจกันเป็นหนึ่ง เพื่อสร้างความสงบสุขภายใต้พื้นฐานของการไม่ใช้ความรุนแรง อยู่ภายใต้ความรัก ความสามัคคี และผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน

Message us