เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน ศาลจังหวัดขอนแก่น ได้นัดอ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ จากกรณีขับรถทัวร์คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือ มข. เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ บริเวณสามแยกคณะเภสัชศาสตร์ ส่งผลให้ น.ส.อรุณนภา วัฒนพานิช หรือ น้องอาย นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะแพทยศาสตร์ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยศาลชั้นต้นได้พิพากษา ให้นายสุรศักดิ์ สีเป็น จำเลยฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จำคุก 4 ปี แต่จำเลยรับสารภาพ ให้การเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดี เห็นควรลดโทษกึ่งหนึ่ง คงเหลือจำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา
นางนิตยา รุ่งสถิตย์ มารดาน้องอาย กล่าวว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นสั่งจำคุกนายสุรศักดิ์ 4 ปี จำเลยรับสารภาพ ให้การเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดี เห็นควรลดโทษกึ่งหนึ่ง คงเหลือจำคุก 2 ปี ต่อมาจำเลยขออุทธรณ์และขอลดโทษอีก วันนี้ศาลอุทธรณ์จึงนัดฟังคำสั่ง โดยศาลได้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น โดยให้เหตุผลว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัยในชั่วโมงเร่งด่วน ร้ายแรงเกินไปที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ แม้ว่าจำเลยจะได้บวชและสำนึกผิด แต่ก็ไม่สามารถอ้างได้จึงพิพากษายืน ตามศาลชั้นต้น
“แม่หวังว่าคดีนี้จะเป็นคดีตัวอย่าง นำคนผิดมาลงโทษ และให้ทุกฝ่ายนำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปแก้ปัญหา รู้ดีว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีใครอยากให้เกิด แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็อยากให้เป็นอุทธาหรณ์ เพราะคดีน้องอายเชื่อว่า อีกไม่นานคนก็จะลืม สำหรับส่วนคดีแพ่ง ที่ครอบครัวได้ยื่นฟ้องเรียกค่าสินไหม 50 ล้านบาทจาก คนขับรถทัวร์ จำเลยที่ 1 และอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ในฐานะจำเลยที่ 2 และ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จำเลยที่ 3 ศาลยกฟ้องคนขับ และอธิการฯ โดยให้จำเลยที่ 3 คือมหาวิทยาลัยรับผิดชอบค่าขาดรับอุปการะอย่างเดียว 18 ล้านบาท แต่ศาลเห็นว่า น้องอายมีความประมาทด้วย จึงลดลงเหลือ 13 ล้านบาท”นางนิตยากล่าว
นางนิตยา กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้ มหาวิทยาลัยขอนแก่นอุทธรณ์ว่า ขอให้ศาลยกฟ้อง และให้ทางแม่ผู้เสียหายจ่ายค่าทนายให้มหาวิทยาลัยขอนแก่นทั้งหมด โดยอ้างว่า เหตุที่เกิดขึ้นเกิดจากน้องอายเป็นคนประมาทก่อน ในขณะที่แม่อุทธรณ์สู้ว่าน้องอายไม่มีส่วนประมาท เนื่องจากเป็นผู้โดยสาร และน้องอายไม่มีส่วนตัดสินใจใด ๆ ซึ่งในการเรียกร้องดังกล่าวมหาวิทยาลัยฯไม่เคยติดต่อครอบครัวมาแต่อย่างใด
ข่าว/ภาพ : จักรพันธ์ นาทันริ ผู้สื่อข่าวจังหวัดขอนแก่น
