“สุดารัตน์”ประกาศนโยบายทำให้คนอีสานหายจนหมดหนี้มีรายได้ยั่งยืนภายใน 3 ปี

เมื่อวันที่9 ต.ค.2565 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ลงพื้นที่จังหวัดสกลนคร ที่อำเภอโคกศรีสุพรรณ และที่ต.โคกก่อง อ.เมือง จ.สกลนคร เพื่อรับฟังปัญหาและข้อร้องเรียน พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สกลนคร พรรคไทยสร้างไทย ประกอบด้วยนายวีระศักดิ์ พรหมภักดี นายสาคร พรหมภักดี นายถนอม สมผล นายสิรภพ สมผล ดร.สิทธิรัตน์ รัตนวิจารณ์ และนายธนชาติ ไชยทองพันธ์

คุณหญิงสุดารัตน์ ขึ้นเวทีประกาศอาสามารับใช้ประชาชนในฐานะลูกอีสาน ซึ่งรู้และเข้าใจปัญหาพี่น้องชาวอีสานมากที่สุด ซึ่งภาคอีสานเป็นภาคที่ใหญ่ที่สุด มีจำนวนประชากรมากที่สุด แต่กลับเป็นภาคที่จนที่สุด เพราะยังขาดโอกาส การเลือกผู้แทนราษฎรหลายครั้งที่ผ่านมายังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอีสานได้ ซึ่งพรรคไทยสร้างไทย และดิฉันในฐานะลูกอิสานขออาสาเข้ามาเปลี่ยนแปลงอิสาน ทำให้พี่น้อง”หายจน หมดหนี้ มีรายได้อย่างยั่งยืน” ภายใน 3 ปีให้ได้

“พี่น้องอีสานเหนื่อยมามากแล้วต่อไปนี้ดิฉันและพรรคไทยสร้างไทยจะขอเหนื่อยแทนพี่น้อง ด้วยการยกระดับราคาสินค้าเกษตร การบริหารจัดการน้ำด้วยโครงการ โขง เลย ชี มูล รวมถึงการพักหนี้ พักดอกให้กับพี่น้องเกษตรกร เพื่อบรรเทาหนี้ก้อนใหญ่ที่เป็นอุปสรรคการทำมาหากิน พร้อมเติมทุน ให้เข้าถึงแหล่งทุนดอกเบี้ยถูก ช่วยให้เข้าถึงการตลาด รวมถึงมีองค์ความรู้ที่จะยกระดับราคาสินค้าเกษตร” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

นอกจากนี้พรรคไทยสร้างไทยยังมีนโยบายดูแลพี่น้องประชาชนทุกคน ตั้งแต่เกิดจนแก่ เช่นโครงการนโยบายบำนาญประชาชน 3,000 บาท ซึ่งผู้สูงอายุในภาคอีสาน สุขภาพไม่ดี และมีฐานะยากจน ดังนั้นโครงการดังกล่าว จะเข้ามาช่วยให้พี่น้องประชาชนสามารถอยู่ได้ และจะเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากที่ได้ผลที่สุด

ขณะเดียวกันยังมีนโยบายในการเรียนฟรีจนจบปริญญาตรีอย่างมีคุณภาพ ลดภาระพ่อแม่ผู้ปกครองและเมื่อได้รับโอกาสในการเรียนฟรีแล้วภาระในการผ่อนชำระหนี้กยศ.ก็จะหมดไป

นอกจากนี้พรรคไทยสร้างไทย ขอประกาศนโยบายในการขจัดยาเสพติดให้สิ้นซาก ไม่เว้นผู้มีอิทธิพล คนมีสี ข้าราชการใดๆก็ตามที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และจะมีมาตรการในการดำเนินคดีปราบปรามอย่างชัดเจน รวมถึงการรักษาผู้ที่ติดยาเสพติดให้มากที่สุด

ดังนั้นจึงขอโอกาสที่จะแก้ไขปัญหาให้พี่น้องชาวอีสานให้มีคุณภาพชีวิตและรายได้ที่ดีขึ้น ซึ่งมั่นใจว่า ประสบการณ์ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา จะสามารถทำได้ และจะเห็นเป็นรูปธรรมภายในระยะเวลา 3 ปี

Message us