อดีตผญบ.ขับเรือเร็วกลับจากงานกฐินเสียหลักชนต้นโกงกางริมคลองจมหายกลายเป็นศพ

เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 11 ตุลาคม ร.ต.อ.ศราวุธ เสริมกลิ่น รองสารวัตรสอบสวน สภ.สาขลา จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุเรือเร็วเสียหลักชนต้นโกงกางริมตลิ่งมีผู้สูญหายภายในน้ำ บริเวณสามแยกคลองเจ๊ก-วัดลูกวัว หมู่ที่ 1 ต.นาเกลือ อ.พระสมุทรเจดีย์ หลังรับแจ้งจึงรีบไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำของมูลนิธิร่วมกตัญญู และแพทย์เวรโรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์สวาทยานนท์ เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ทั้งนี้ ในที่เกิดเหตุอยู่ตรงริมตลิ่งบริเวณป่าต้นโกงกาง พบร่องรอยถูกชนจนต้นไม้เล็กใหญ่ล้มระนาบเป็นรูโหว่ขนาดใหญ่ ห่างกันประมาณ 300 เมตร พบเรือเร็วแบบมีพวงมาลัยขับหรือที่ชาวบ้านเรียกว่าเรือวางกลาง เป็นเรือลักษณะคล้ายเรือหางยาว และมีเครื่องยนต์วางอยู่ตรงกลางลำเรือ และมีพวงมาลัยคอยบังคับโดยตัวเรือมีขนาดความยาวเกือบ 5 เมตร ลอยลำอยู่กลางน้ำ บริเวณช่องวางเครื่องพบเศษใบไม้และกิ่งไม้หักตกหล่นเกลื่อนพื้นเรือ ช่วงหัวเรือพบมีรอยเฉี่ยวชนเสียหาย ส่วนคนขับทราบชื่อ นายชาติชาย เที่ยงธรรม อายุ 61 ปี เป็นอดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 4 ย่านบางมด กทม. และเป็นเจ้าของสวนส้มบางมดขนาดใหญ่ชื่อดังหายตัวไป เจ้าหน้าที่ประดาน้ำมูลนิธิจึงลงงมค้นหาใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงพบร่างผู้เสียชีวิตนอนคว่ำหน้าจมอยู่ก้นคลอง ก่อนนำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาชันสูตรเบื้องต้นบนฝั่ง พบว่าขาขวาบริเวณหน้าแข้งหัก และมีบาดแผลตามร่างกายหลายแห่ง

จากการสอบถาม นายพิชัย เปรมปิ่ม อายุ 54 ปี ญาติของผู้ตาย เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุได้ชักชวนบรรดาญาติพี่น้องรวมผู้ตายด้วย 6 คน ไปร่วมงานบุญทอดกฐินที่วัดศรีคงครามและชมการแข่งขันเรือเร็วหน้าวัดซึ่งเป็นประเพณีในวันออกพรรษาของทุกปี โดยใช้เรือสปีดโบ๊ท 1 ลำ และเรือเร็วของผู้ตาย 1 ลำ กระทั่งช่วงเย็นจึงได้ชักชวนกันกลับบ้านพักย่านบางขุนเทียน โดยมีเรือของผู้ตายขับนำหน้า ส่วนตนพร้อมญาติรวม 5 คน นั่งเรือสปีดโบ๊ทขับตามหลังมาห่างกันประมาณ 100 เมต

ก่อนมาถึงที่เกิดเหตุตนเห็นร้านขายหอยนางรมซึ่งตั้งอยู่ริมตลิ่งจึงได้ตะโกนถามว่า ยังมีหอยนางรมเหลือขายบ้างไหม ทุกคนในเรือพร้อมใจหันหน้าไปดูแม่ค้าทั้งหมดแต่ไม่ทันได้มองเรือของผู้ตาย ก่อนที่จะหันกลับมาพบเรือของผู้ตายลอยอยู่กลางน้ำ จึงพูดเล่นกันในเรือว่า ผู้ใหญ่ถึงต้องจอดเรือนอนรอพวกเราเลยเหรอ พร้อมทั้งแล่นเรือเข้าไปหาแต่ต้องมาตกใจเมื่อพบว่าผู้ตายไม่ได้อยู่ในเรือแล้วมีเพียงเศษใบไม้และกิ่งไม้หล่นเกลื่อนกลางลำเรือ และบริเวณหัวเรือมีรอยกระแทกจึงมั่นใจว่าเรือน่าจะชนต้นไม้และคนขับกระเด็นตกลงไปในน้ำ ก่อนที่รีบกระโดดลงงมค้นหาอยู่นานแต่ไม่พบ จึงได้โทรศัพท์แจ้งเจาหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยให้เดินทางมาช่วยกันค้นหาและมาพบกลายเป็นศพจมอยู่ก้นคลอง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ได้ จึงได้เชิญตัวกลุ่มญาติไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.สาขลา ก่อนที่จะบันทึกภาพและลงบันทึกประจำวันเบื้องต้น พร้อมมอบร่างผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำส่งสถาบันนิติเวช เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป 

Message us