โวยการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังสร้างปัญหากัดเซาะตลิ่งมีตะกอนเลนทำประมงท้องถิ่นแย่

เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม นายมาโนช หนองใหญ่ รองนายกเมืองพัทยา จ.ชลบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่สำรวจบริเวณชายหาดกระทิงลาย ม.1 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า ปัจจุบันบริเวณชายหาดในช่วงดังกล่าวมีปัญหาถูกน้ำทะเลกัดเซาะอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญตามแนวชายหาดในระยะ 50-100 เมตร ยังมีปัญหาพื้นชายหาดที่ส่วนใหญ่ตกเป็นตะกอนเลนและโคลนดำเป็นจำนวนมาก ทำให้ชาวประมงท้องถิ่นไม่สามารถออกหากินได้ ขณะที่ฟาร์มหอยแมลงภู่ที่ชาวบ้านเพาะเลี้ยงไว้หน้าอ่าวก็ตายเสียหายไปเป็นจำนวนมากจากปัญหาน้ำขุ่นข้น ซึ่งคาดว่าน่าจะมีจากการโครงการที่รัฐบาลจะผลักดันให้มีการก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบังเดิมในเฟสที่ 2 และกำลังจะเริ่มดำเนินการในเฟสใหม่หรือเฟสที่ 3 ในเร็ววันนี้

นายมาโนช กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าชายหาดกระทิงลายมีปัญหาการกัดเซาะ และน้ำทะเลรวมทั้งผืนทรายมีการเปลี่ยนแปลงทางระบบนิเวศน์เนื่องจากมีลักษณะขุ่นข้นและมีตะกอนเลนเป็นจำนวนมากจึงทำให้การทำประมงชายฝั่งขนาดเล็กเป็นไปด้วยความยากลำบาก ขณะที่ฟาร์มหอย แมลงภู่ที่ชาวบ้านเพาะเลี้ยงไว้หน้าอ่าวก็ไม่ค่อยเติบโตและตายเป็นส่วนใหญ่เพราะคุณภาพของน้ำที่ขาดออกซิเจน ซึ่งคาดว่าน่าจะมาจากแผนการก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบังเพิ่มเติมในเฟสที่ 2 และแผนการก่อสร้างโครงการท่าเรือแหลมฉบังในเฟสที่ 3 ของรัฐบาลที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการจัดทำประ ชาพิจารณ์ เพื่อต้องการให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางหรือ HUB ในการขนถ่ายสินค้าทางทะเลที่สำคัญ

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องระดับชาติและมีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ดัง นั้นทุกฝ่ายควรหันมาให้ความร่วมมือเพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างรอบด้านและทุกทิศทาง ทั้งเรื่องของเศรษฐกิจ สิ่งแลด้อม สังคม อาชีพ และการท่องเที่ยว ซึ่งจากนี้จะได้มีการประชุมหารือและเรียกหน่วยงานและผู้ที่เกี่ยว ข้อง ทั้งเมืองพัทยา กลุ่ม NGO ชุมชน กลุ่มประมงท้องถิ่น กรมเจ้าท่า และการท่าเรือ มาร่วมหารือเพื่อหาทางออกร่วมกันต่อไป

ข่าว/ภาพ : ชัยยศ ผู้พัฒนพงษ์

Message us