นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นางศิริพร เดชสิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท ซีพี แอ๊กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการ “ความร่วมมือการจัดการลดขยะอาหาร” ระหว่าง กรุงเทพมหานคร กับ บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) เพื่อประกาศเจตนารมณ์ร่วมขับเคลื่อน “โครงการไม่เทรวม” โดยมี เป้าหมายส่งมอบอาหารส่วนเกินที่จำหน่ายไม่หมดให้กับกรุงเทพมหานครนำไปใช้ประโยชน์ ลดปริมาณขยะอาหาร เป็นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และเกิดประโยชน์สูงสุด ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และช่วยสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี อีกทั้งลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก รวมทั้งลดงบประมาณในการบริหารจัดการขยะของกรุงเทพมหานครอย่างยั่งยืน ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า เขตพระนคร
นายชัชชาติ กล่าวว่า กรุงเทพมหานคร เสียค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการขยะปีละ 7,000 ล้านบาท ทั้งที่ไม่ควรจะเสียเลย ควรจะกลายเป็นรายได้ด้วยซ้ำ ถ้าเราสามารถแยกขยะได้ดี ขยะทุกชิ้นมันมีมูลค่าได้ ขอบคุณซีพี แอ๊กซ์ตร้า ที่ได้ทำ บันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการจัดการลดขยะอาหาร หัวใจคือเราไม่ได้ทำแค่เป็นเหมือนกับไฟไหม้ฟาง หรือว่าทำเพื่อสร้างภาพ แต่เราทำอย่างต่อเนื่อง เราเองก็มีโครงการร่วมมือกันหลายอย่าง โดยเฉพาะปีนี้เป็นปีสำคัญที่เราจะมีการคัดแยกขยะ ใครไม่แยกก็จะต้องจ่ายค่าเก็บขยะแพงขึ้น แต่ถ้าเราทำสำเร็จจะเป็นการเปลี่ยนพฤติกรรมเปลี่ยนเมืองได้เลย ซึ่งจริง ๆ แล้วซีพี แอ๊กซ์ตร้า ก็ได้ทำมาก่อนล่วงหน้าแล้ว รวมทั้งจะมีแคมเปญช่วยโปรโมตเรื่องคัดแยกขยะ เพียงเข้าสู่ระบบ BKK Waste Pay ลงทะเบียนด้วยรหัสประจำบ้าน และโชว์โค้ดที่จุด Soft Serve ที่แม็คโคร หรือโลตัส ก็รับไอศกรีมฟรี ต้องร่วมมือร่วมใจกัน สุดท้ายแล้วก็จะกลายเป็นภาพต่อที่สมบูรณ์ ที่จะทำให้เราแยกขยะได้สำเร็จ
สำหรับ ความร่วมมือดังกล่าวเป็นการต่อยอดเพื่อขับเคลื่อนโครงการ “ไม่เทรวม” ส่งเสริมการนำขยะอาหารไปใช้ประโยชน์ สร้างกระบวนการการมีส่วนร่วมระหว่างภาครัฐและเอกชน มุ่งสู่เป้าหมาย Zero Food Waste ลดขยะอาหารสู่หลุมฝังกลบให้เป็นศูนย์ ซึ่งเป็นการส่งเสริมการจัดการขยะที่ต้นทางในระดับเมืองให้เกิดประสิทธิภาพสอดคล้องกับนโยบาย “ไม่เทรวม” ของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ บริษัท ซีพี แอ๊กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) จะเป็นหน่วยงานรณรงค์ ส่งเสริม สนับสนุนการลดและคัดแยกขยะในองค์กรและสาธารณะ พร้อมจัดระบบลดและคัดแยกขยะในองค์กรครอบคลุมทุกสาขาของแม็คโครและโลตัสในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และส่งต่อขยะอาหารส่วนเกินที่จำหน่ายไม่หมดหรือที่เรียกว่า “อาหารส่วนเกิน” (Food Waste) ที่ได้ทำการคัดแยกเฉพาะขยะอาหาร เช่น ผัก ผลไม้ อาหารสด ออกจากขยะที่ไม่ใช่อาหาร จาก 463 สาขา และส่งต่อให้กรุงเทพมหานครรวบรวมเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ ซึ่งกรุงเทพมหานครจะสนับสนุนส่งเสริมองค์ความรู้การจัดการขยะ และจัดระบบเก็บรวบรวมขนส่งอาหารส่วนเกินที่จำหน่ายไม่หมด (Food Waste) นำไปไปใช้ประโยชน์เป็นปุ๋ยหมัก เลี้ยงแมลงทหารดำ (BSF) หรือผลิตก๊าซชีวภาพ รวมถึงเชื่อมต่อการคัดแยกขยะเศษอาหารกับเกษตรกรเข้ารวบรวมเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ ลดปริมาณขยะอาหารที่ต้องนำไปกำจัดโดยการฝังกลบ หรือการเผา ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญในการบูรณาการกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการขยะอาหาร เพื่อบรรลุตามเป้าหมายลดขยะอาหารให้เป็นศูนย์
