
เมื่อวันที่ 22 พ.ค. นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อแก้ไขปัญหาการใช้คนไทยถือครองที่ดินแทนคนต่างด้าว โดยมี นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้เกียรติร่วมเป็นสักขีพยานในพิธี ณ ศูนย์ประชุมกรมพัฒนาธุรกิจการค้า DBD Conference Hall ชั้น 6 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า

นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยป็นตัวแทนถือครองที่ดิน เพื่อประกอบธุรกิจที่ไม่อนุญาตให้คนต่างด้าวดำเนินการ เช่น ธุรกิจด้านเกษตรกรรมหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวไม่เพียงส่งผลกระทบต่อโครงสร้างทางเศรษฐกิจ หากแต่ยังเป็นภัยต่อความมั่นคงด้านที่ดินและทรัพยากรของชาติในระยะยาว กระทรวงมหาดไทย ในฐานะหน่วยงานหลักที่มีภารกิจในการกำกับดูแลการบริหารจัดการที่ดินของประเทศ โดยเฉพาะกรมที่ดิน ได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการป้องปรามพฤติกรรมที่บิดเบือนเจตนารมณ์ของกฎหมายที่ดิน การแลกเปลี่ยนข้อมูลกับหน่วยงานที่มีบทบาทในการควบคุมและกำกับธุรกิจ เช่น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จึงเป็นแนวทางเชิงรุกในการเสริมสร้างศักยภาพการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพและทันต่อสถานการณ์

นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน กล่าวว่า การลงนาม MOU ในครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมระหว่างกรมที่ดินและกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อสกัดกั้นพฤติกรรมการหลีกเลี่ยงกฎหมาย โดยเฉพาะการใช้คนไทยเป็นนอมินีให้คนต่างด้าวถือครองที่ดินผ่านนิติบุคคล ซึ่งสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจ และโอกาสของคนไทยในการประกอบธุรกิจ การลงนามในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อบูรณาการข้อมูลด้านกรรมสิทธิ์ที่ดินจากกรมที่ดิน กับข้อมูลการจดทะเบียนนิติบุคคลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบ และวิเคราะห์สถานะนิติบุคคลที่อาจเข้าข่ายเป็นนอมินี ตลอดจนดำเนินมาตรการป้องกันการถือครองที่ดินโดยมิชอบให้เข้มข้นและแม่นยำยิ่งขึ้น สาระสำคัญของความร่วมมือในครั้งนี้ ได้แก่ การแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อใช้ในการประเมินสถานะนิติบุคคลที่อาจเป็นนอมินี การสนับสนุนการทำงานเชิงรุกของเจ้าหน้าที่รัฐในการตรวจสอบธุรกรรมที่ไม่ปกติ การวิเคราะห์และวางแผนกำกับดูแลกิจการที่เข้าข่ายต้องสงสัยเพื่อออกมาตรการเชิงนโยบายที่เหมาะสม

สำหรับ ความร่วมมือในครั้งนี้มีความสำคัญเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นกลไกที่เปิดช่องทางให้กรมที่ดินสามารถเข้าถึงข้อมูลของนิติบุคคลที่อาจมีลักษณะเป็นนอมินีและในทางกลับกัน กรมพัฒนาธุรกิจการค้าก็ได้รับข้อมูลที่ดินของนิติบุคคลที่อยู่ในข่ายต้องสงสัย เพื่อประกอบการพิจารณาตรวจสอบข้อมูลผู้เกี่ยวข้อง ทั้งผู้ถือหุ้นและกรรมการว่า มีเจตนาถือครองแทนคนต่างด้าวหรือไม่ ตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทยที่ต้องการช่วยเสริมสร้างระบบการกำกับดูแลที่เข้มแข็ง และสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและนักลงทุนในการประกอบธุรกิจบนพื้นฐานของกฎหมายและความโปร่งใส พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน