
เมื่อวันที่ 4 พ.ค. กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ปฏิบัติการกวาดล้างเครือข่ายนายทุนชาวจีนที่ลักลอบจำหน่ายเครื่องสำอางปลอมครั้งใหญ่ บุกเข้าตรวจค้นโกดังและบ้านพักรวม 5 จุด ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สามารถตรวจยึดและอายัดผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางปลอมเลียนแบบแบรนด์ดัง และผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐานอื่นๆ รวมกว่า 34,806 ชิ้น มูลค่าความเสียหายกว่า 4.3 ล้านบาท ซึ่งเตรียมนำออกจำหน่ายให้กับประชาชนชาวไทย
ปฏิบัติการครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อประมาณเดือนมีนาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้จับกุมผู้ขายชาวไทยรายหนึ่ง พร้อมยึดเครื่องสำอางผิดกฎหมาย และจากการขยายผลการสืบสวน พบว่าผู้ค้ารายดังกล่าวรับซื้อสินค้ามาจากกลุ่มนายทุนชาวจีนที่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย โดยมีการสั่งนำเข้าสินค้าที่ไม่มีคุณภาพและไม่ได้มาตรฐานจากต่างประเทศ ก่อนนำมาขายส่งและขายปลีกให้กับประชาชนชาวไทย โดยหลอกลวงว่าเป็นสินค้ามีคุณภาพ
จากการสืบสวนเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่ากลุ่มผู้กระทำผิดใช้วิธีการลักลอบนำเข้าสินค้าและเช่าสถานที่หลายแห่งในพื้นที่แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ และแขวงบุคคโล เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร เพื่อใช้เป็นสถานที่จัดเก็บสินค้าผิดกฎหมายดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานและนำหมายค้นเข้าตรวจสอบเป้าหมายทั้ง 5 จุด ได้แก่
- โกดังแห่งหนึ่งในพื้นที่แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตรวจยึดเครื่องสำอางขนาด 100-150 มล. จำนวน 1,956 ขวด
- โกดังแห่งหนึ่งในพื้นที่แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตรวจยึดเครื่องสำอางขนาด 2 มล. จำนวน 26,000 ขวด และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ไม่ได้มาตรฐาน จำนวน 6,600 ชิ้น
- โกดังแห่งหนึ่งในพื้นที่แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตรวจยึดเครื่องสำอางขนาด 100-150 มล. จำนวน 176 ขวด
- โกดังแห่งหนึ่งในพื้นที่แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร ตรวจยึดเครื่องสำอางขนาด 100-150 มล. จำนวน 74 ขวด
- บ้านพักของกลุ่มนายทุนชาวจีน ภายในอาคารแห่งหนึ่งในพื้นที่แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร ตรวจยึดพยานหลักฐานต่างๆ
เบื้องต้น การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ.2558 ในฐานความผิด “ร่วมจำหน่ายขายเครื่องสำอางที่มิได้จดแจ้งและจำหน่ายเครื่องสำอางไม่มีฉลากภาษาไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต” และ “ขายเครื่องสำอางไม่มีฉลากภาษาไทย”

จากการสืบสวนขยายผลยังพบว่า กลุ่มเครือข่ายนี้มีนายทุนชาวจีนเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง โดยจะใช้บัญชีม้าซึ่งเป็นบัญชีของบุคคลชาวกัมพูชา ในการทำธุรกรรม และมีการปลอมบรรจุภัณฑ์เลียนแบบสินค้าของแท้ได้อย่างแนบเนียน แต่สินค้าภายในกลับเป็นของที่ไม่มีคุณภาพ โดยเน้นการขายส่งเพื่อกระจายสินค้าจำนวนมากไปยังผู้ค้ารายย่อยชาวไทย เพื่อนำไปจำหน่ายต่อในช่องทางออนไลน์และร้านค้าทั่วไป ทำให้สินค้าปลอมเหล่านี้กระจายไปสู่ผู้บริโภคในวงกว้าง ซึ่งคาดว่ากลุ่มผู้กระทำผิดได้ดำเนินการในลักษณะนี้มาแล้วประมาณ 3 ปี
ผลการปฏิบัติการดังกล่าวเป็นไปตามการอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค และ พ.ต.อ.วีระพงษ์ คล้ายทอง ผู้กำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค โดยได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ธันว์ธวัช อนุรักษนิยม สารวัตรกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ดำเนินการในเรื่องนี้อย่างจริงจัง

ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจยึดและอายัดสินค้าทั้งหมด พร้อมนำส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และจะเร่งขยายผลเพื่อติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่เหลือมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด