ตร.คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังเจ้าตัวปิดปากเงียบไม่ขอยื่นประกัน

เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 1 ควบคุมตัว พ.ต.อ.หญิงอัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล หรือหมอแอร์  ผู้ต้องหาในฐานความผิด “ร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 โดยไม่ได้รับอนุญาต และสมคบกันกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด” ไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดา ระหว่างควบคุมตัว หมอแอร์สวมหมวก ใส่แว่นตาดำ และแมสก์ปิดบังใบหน้า ขณะที่สื่อมวลชนพยายามสอบถาม ว่าหมอแอร์ทำจริงหรือไม่ มีความกังวลไหม และมีอะไรอยากจะขอโทษสังคมหรือไม่ หมอแอร์ไม่ตอบทุกคำถาม

สำหรับ ผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนก็จะนำตัวไปฝากขังศาลอาญารัชดาในวันพรุ่งนี้ (วันที่ 11 มิถุนายน 2568)

วันเดียวกัน ที่ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด นายนิติศักดิ์ มีขวด ทนายความ กล่าวภายหลังเข้าเยี่ยมหมอแอร์ ว่า เมื่อสักครู่ได้เข้าไปร่วมฟังการสอบสวน หมอแอร์ได้ให้การหลายส่วน โดยได้ให้การภาคเสธ โดยเจ้าตัวยอมรับเรื่องของการสั่งยาบางส่วน ทั้งนี้จากการตรวจค้นห้องพัก แฟลตตำรวจ หมอแอร์ยอมรับเป็นห้องของตนเอง และยาของกลางที่อยู่ภายในห้อง หมอรู้บางส่วนและไม่รับรู้บางส่วน แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด
โดยหมอแอร์ประสงค์ ไม่ขอยื่นประกันตัว ทั้งในชั้นพนักงานสอบสวนและชั้นศาล และในวันนี้เจ้าหน้าที่จะนำตัวหมอแอร์ ไปฝากขังยังศาลอาญา

เมื่อถามว่า หมอแอร์เป็นคนเบิกจ่ายยาจาก อย. จริงหรือไม่ นายนิติศักดิ์ ระบุว่า มีตามข้อเท็จจริง เนื่องจากเขาเป็นหมอมีอำนาจในการสั่งซื้อให้ผู้ป่วยอยู่แล้ว ตำรวจยังต้องสอบสวนอีกหลายปาก เพื่อสรุปสำนวนก่อนพิจารณาสั่งฟ้อง

ส่วนที่มีการพูดถึงรายชื่อคนตายที่ถูกสวมสิทธิ นายนิติศักดิ์ กล่าวว่า ตำรวจสอบประเด็นนี้แล้ว ขอให้เป็นการสอบสวนที่มาของรายชื่อ ตนไม่อยากเปิดเผยรายละเอียด รวมถึงยาจะกระจายไปถึงเครือข่ายค้ายาเสพติดหรือไม่ ยอมรับต้องมีการสอบ ซึ่งส่วนไหนที่ไม่เป็นความจริง หมอแอร์ ก็ปฏิเสธ ขณะนี้ยังไม่มีการพาดพิงถึงบุคคลอื่น

นายนิติศักดิ์ ยังเปิดเผยท่าทีหมอแอ ร์ว่า จากข่าวกระแสที่ออกมารุนแรง เจ้าตัวหนักใจเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว และวันนี้ก็รับสภาพ แต่พอโดนกระแสโจมตีหนัก ก็ตัดสินใจไม่ประสงค์ประกันตัว อยากสงบสติอารมณ์ก่อนและค่อยคิดว่าต่อไปนี้จะเอาอย่างไรกับชีวิต ตอนนี้ยังไม่คุยเรื่องการต่อสู้คดี ให้หมอเข้าไปอยู่ข้างในก่อนแล้วค่อยตัดสินอีกทีว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ

ทั้งนี้ ระหว่างการสอบปากคำยังไม่พบว่า หมอแอร์ ร้องไห้ แต่ตกใจ และขวัญเสียเป็นเรื่องปกติ และไม่ได้ฝากอะไรเป็นพิเศษ

อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่แจ้งหมอแอร์ว่า วันนี้จะมีค้นเพิ่มอีก 11 จุด แต่เชื่อว่าตำรวจได้มีการแจ้งแล้ว ก็เป็นเรื่องปกติจะกังวล เพราะไม่รู้ว่าการตรวจค้นจะเจออะไรบ้าง ตนเป็นทนาย ไม่ได้รู้ทุกเรื่อง รู้เฉพาะหน้าที่งานที่รับผิดชอบ เราเป็นทนายให้สิทธิเต็มที่ ส่วนจะผิดหรือไม่ผิด ไม่สามารถตัดสินได้ ศาลจะเป็นผู้ตัดสิน หากผิดจริงก็ต้องรับกรรมตามข้อกฎหมาย

Message us