ท่องเที่ยวไทยหนุนหุ้นไทยไปต่อ

หุ้นไทยปี 66 เด้งรับ การท่องเที่ยวไทยฟื้นคึกคัก หลังจาก ททท. ตั้งเป้าต่างชาติมาเที่ยวไทย 20 ล้านคน

นายสุรเดช เกียรติธนากร กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) ภาคการท่องเที่ยวที่เติบโตขึ้นต่อเนื่อง โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตั้งเป้าในการดึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยให้ได้จำนวน 20 ล้านคน ในปี 2566 ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ให้ประเทศกว่า 2.38 ล้านล้านบาท หลังจากในปี 2565 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามากว่า 10 ล้านคน และมีค่าเฉลี่ยจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเพิ่มสูงถึง 70,000 คนต่อวัน และคาดว่าสิ้นปี 2565 คงปิดปีได้ไม่น้อยกว่า 11 ล้านคน

ทั้งนี้ การที่จีนทยอยเปิดประเทศ หนุน GDP ไทยขยายตัว ลดผลกระทบจากการส่งออกที่ชะลอตัว และการเพิ่มขึ้นของรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติซึ่งคิดเป็นสัดส่วนที่สูงกว่า 10% ของจีดีพี หรือ 61% ของรายได้ทั้งหมดก่อนสถานการณ์การระบาดของ Covid-19

นอกจากนี้ การเลือกตั้งของไทยที่จะเกิดขึ้นในปี 2566 การเลือกตั้งแต่ละครั้งจะทำให้เกิดเม็ดเงินเข้าสู่เศรษฐกิจเป็นจำนวนมาก รวมถึงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นของรัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามา ซึ่งนี่จะเป็นแรงหนุนที่ช่วยให้เศรษฐกิจไทยในปีหน้าฟื้นตัวได้เป็นอย่างดี

ในส่วนของ สถานการณ์เงินเฟ้อพ้นจุดวิกฤติแล้ว โดยปีที่ผ่านมาภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย แต่เงินเฟ้อน่าจะพ้นจุดสูงสุดไปแล้ว จึงช่วยลดแรงกดดันการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ กนง. ได้ และไม่ต้องเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วและแรงแบบประเทศอื่น

ขณะที่ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2566 จากภาครัฐที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง จากประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ดำเนินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ 2566 ให้ประชาชนอย่างต่อเนื่อง อย่างมาตรการช้อปดีมีคืน ปี 2566 ตั้งแต่ 1 มกราคม – 15 กุมภาพันธ์ 2566 ด้วยวงเงินสูงถึง 40,000 บาท, มาตรการลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ปี 2566 ในอัตรา 15%, ลดค่าธรรมเนียมจดสิทธิบัตรที่อยู่อาศัย, มาตรการช่วยเหลือผู้กู้ยืมเงิน ไปจนถึงการส่งเสริมให้ประชาชนและผู้ลงทุนมีศักยภาพในการสร้างสุขภาพการเงินที่ดี ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยปี 2566 ให้คึกคักมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย

นายสุรเดช กล่าว่า โดยรวม บลจ. กสิกรไทย มองเป้าดัชนีหุ้นไทยปลายปี 2566 ที่ 1,800 จุด มีปัจจัยสนับสนุนหลักภายในประเทศมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติและการทยอยกลับมาเปิดดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจตามปกติ ด้านค่าเงินบาทคาดว่าจะมีเสถียรภาพมากขึ้นจากเงินเฟ้อที่พ้นจุดสูงสุดไปแล้ว และดุลบัญชีเดินสะพัดกลับมาเกินดุล และหากค่าเงินดอลลาร์เริ่มอ่อนค่า จะหนุนให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากยิ่งขึ้น แต่ก็ยังมีปัจจัยอื่นที่ต้องเฝ้าดูอย่างต่อเนื่องทั้งการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ทิศทางตัวเลขเงินเฟ้อ ทิศทางนโยบายทางการเงินของธนาคารกลาง ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ ความคืบหน้าการเปิดประเทศอย่างสมบูรณ์ของจีน รวมทั้งการเลือกตั้งของไทย

ส่งผลให้หุ้นที่เกี่ยวข้องกับธีมการเติบโตอย่างยั่งยืน มีโอกาสฟื้นตัวได้เร็ว เนื่องจากผสมผสานระหว่างการเป็นหุ้นที่มี Beta และการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นกระแสรักษ์โลก หรือ เมกะเทรนด์ต่างๆ หุ้นที่มีความ Defensive หรือมีความทนทานในทุกสภาพตลาด อย่างธีมการลงทุนด้าน Healthcare กลับมาน่าสนใจ จาก Valuation ที่ไม่สูง เป็นบริการที่มีความจำเป็นและมีราย

Message us