
เมื่อวันที่ 24 เมษายน โลกโซเชียลมีเดียและเพจต่างๆทั่วทั้ง จ.ขอนแก่น ได้เผยแพร่ภาพจากเพจเฟซบุ๊กชื่อ “ ชุมชนข่าวขอนแก่น” ได้โพสต์คลิป นักเรียนชาย ม.6 ถูกชายแปลกหน้าจับแขนลากเข้าห้องน้ำห้างดังใจกลางเมืองขอนแก่น หวังทำการอนาจาร แต่นักเรียนสลัดแขนหลุดออกมาได้แล้ววิ่งไปขอความช่วยเหลือจับตัวได้ทัน พร้อมข้อความระบุว่า “เตือนภัยในเซ็นทรัลขอนแก่น!! จะเอาเรื่องนี้มาเป็นอุทาหรณ์นะครับให้ระวังตัวเวลาไปเข้าห้องน้ำในเซ็นทรัลผมไม่เคยโดนอะไรแบบนี้เลยครับตกใจมาก ไปเข้าห้องน้ำปกติเหมือนเขามองตั้งแต่ผมเข้ามาล่ะ ผมกลัวมีอะไรเกิดขึ้นเขามองไม่หยุดเลย ผมเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายคลิปก่อนเพราะในห้องน้ำไม่มีคนเลยชั้น 3 ห้องน้ำชาย พอผมทำธุระเสร็จเปิดประตูออกมาจากห้องน้ำเขาเข้ามาถามผม ผมไม่ได้ยิน เลยถามว่าอะไรนะครับ เขาเลยดึงตัวผมแล้วจับ…..ผมแล้วจุ้บ ผมเลยตะโกนอะไรของพี่ แล้วเขาดึงผมไปในห้องน้ำ ตอนแรกผมไม่ยอมแต่ผมสู้แรงเขาไม่ไหว ผมเลยยอมเข้าไป พอเขาเผลอผมสบัดมือแล้ววิ่งออกจากห้องน้ำมีคลิปครับ DM อัดไว้ได้ ก็เลยไปขอให้รปภ. และเรียกตำรวจมา ระวังตัวกันด้วยนะครับชาวขอนแก่น”
ในเวลาต่อมาผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังน้องเอ (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี นักเรียนระดับชั้น ม.6 โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. วันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา ในห้องน้ำห้างสรรพสินค้าชื่อดังในเมืองขอนแก่น ก่อนเกิดเหตุตนเองไปทานข้าวกับเพื่อน 2 คนบนห้าง หลังจากทานเสร็จได้ไปเข้าห้องน้ำที่ชั้น 3 ของห้างแต่ไปคนเดียว ในห้องน้ำจะมีชายแปลกหน้าดังกล่าวอยู่ในห้องน้ำคนเดียว ต่างคนต่างมองหน้ากันแค่แว้บเดียว ตนเองจึงเดินเข้าห้องส้วมไปฉี่ หลังจากฉี่เสร็จออกมากำลังล้างมือที่ก็อกน้ำ ซึ่งชายดังกล่าวยังมองตามไม่ละสายตา แต่ถามบางอย่างตนไม่ได้ยินเนื่องจากเสียงก็อกน้ำดัง ตนเองจึงถามกลับไปว่าอะไรนะครับ จังหวะนั้น ชายดังกล่าวเอาหน้าเข้ามาใกล้ๆ แล้วหอมแก้ม ก่อนจะจับอวัยวะเพศตนแล้วดึงแขนตนเองเข้าห้องส้วม ตนเองเอะใจแล้วว่า อาจจะมีอะไรแน่ๆ จึงได้กดอัดถ่ายคลิปเอาไว้ก่อน ตามที่เห็นในโซเชียล
“หลังจากชายดังกล่าวดึงผมไปตามที่เห็นในคลิป ผมเองพยายามดึงแขนกลับคืนแต่สู้แรงไม่ไหว จึงปล่อยไปก่อนเพื่อหาจังหวะหนี เพราะอัดคลิปไว้แล้ว พอจังหวะเดินตามไปชายดังกล่าวเผลอผมจึงผลักแล้วรีบดึงมือออก ก่อนจะวิ่งไปหาเพื่อนขอความช่วยเหลือ ก่อนที่เพื่อนจะมาจับตัวเอาไว้ และเรียก รปภ.มาควบคุมตัวก่อนจะแจ้งตำรวจโดยชายแปลกหน้าดังกล่าวอ้างว่าจะขอไอดีไลน์”ผู้เสียหายเล่า
น้องเอ บอกว่า ชายดังกล่าวรูปร่างสูง หน้าตาดี ผิวขาว แต่งตัวดี สวมใส่แมสปกปิดใบหน้า อายยุประมาณ 30 ปี ช่วงที่ตนคุยกับชายดังกล่าวมีการพูดคุยกันและไกล่เกลี่ยกัน ได้มีการพูดถึงค่าทำขวัญ โดยทางตำรวจแนะนำว่าหากพูดคุยไกล่เกลี่ยตกลงกันไม่ให้ ก็ให้มาที่โรงพัก ก่อนที่ตำรวจจะกลับไป จากการพูดคุยนั้นตนเองและเพื่อนได้เปิดข้อกฎหมายเรื่องการเรียกค่าทำขวัญ ยึดตามกฎหมายคือ 5,000 บาท แต่ชายดังกล่าวบอกว่าหากจะเอาเงินต้องไปที่รถ เพราะมีโทรศัพท์ 2 เครื่อง และบอกอีกว่ามีเงินเพียง 3,000 บาท ก่อนที่ตนและเพื่อนจะไปที่รถโดยมี รปภ.ไปด้วย ขณะนั้นคิดว่าตนกับเพื่อนมีธุระต่อจึงต้องการให้จบเรื่องเร็วที่สุดจึงได้เอาเงินมาก่อน โดยยังไม่ได้ปรึกษาผู้ปกครอง เพราะคุยกัน 3 คน ตอนที่รับเงินนั้นยังติดใจอยู่ แต่คุยกันแล้วว่าจะต้องไปเรียนไปทำงานอื่นๆ หากดำเนินคดีก็คงไม่มีเวลา จึงเลือกที่จะเอาเงินแล้วออกมาก่อน”
น้องเอ เล่าว่า ส่วนตัวอยากเอาผิดชายคนดังกล่าว เพราะมีหลายคนทักมาบอกว่าเป็นคนเดียวกันที่ก่อเหตุ แต่ไม่มีใครอัดคลิปไว้ และไม่มีใครทำอะไรได้เลย จึงมองว่าหากปล่อยไปก็จะทำให้เป็นอันตรายต่อสังคมเพราะเชื่อว่าจะต้องกลับไปก่อเหตุซ้ำอีก จากข้อมูลที่คนอื่นๆเคยโดนแบบเดียวกันกับตนเองส่งข้อมูลมาให้แต่ไม่ได้ถ่ายคลิป ซึ่งพฤติกรรมของชายดังกล่าวแต่ละคนบอกว่ ามีพฤติกรรมเหมือนกันกับที่ตนเจอ ทั้งจับอวัยะเพศ ลากแขนเข้าห้องน้ำหวังทำอนาจาร จึงไม่อยากให้เกิดขึ้นกับใครอีก