เมื่อวันที่ 9 พ.ค. น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์กรณีคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ร่วมระหว่างคณะกรรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีไอเอส) นำหมายเรียกคดีฮั้วเลือกสว.ไปแปะหน้าบ้านแต่ละคนว่า เป็นไปตามกระบวนการ ถ้าบอกว่าวันนี้ได้เริ่มดำเนินการแล้ว ตนมองว่าค่อนข้างช้า เพราะการได้มาซึ่ง สว. ผ่านมาแล้ว 10 เดือน แต่อย่างน้อยกระบวนการก็ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว และเป็นการบูรณาการระหว่าง 3 ฝ่าย ได้แก่ กกต. ดีเอสไอ และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ถือเป็นองค์กรที่มีอำนาจในการดำเนินการตรวจสอบ ดังนั้น เมื่อกระบวนการเริ่มแล้ว ประชาชนก็รอคอยคำตอบด้วยความอยากรู้ว่า สว.กลุ่มใหญ่ได้มาอย่างไร จะได้สิ้นสงสัย
เมื่อถามว่า ภายในกลุ่ม สว.ได้มีการพูดคุยอะไรหรือไม่ น.ส.นันทนากล่าวว่า ปกติตนไม่ได้พูดกับ สว.กลุ่มใหญ่อยู่แล้ว จึงไม่ทราบว่ากลุ่มใหญ่เขามีความเคลื่อนไหวอะไร เมื่อถามว่า มองความเงียบของ สว. โดยเฉพาะ 3 ประมุข ทั้งประธานและรองประธานวุฒิสภา จะมีผลดีผลเสียอย่างไรต่อสถานการณ์แบบนี้ น.ส.นันทนา กล่าวว่า ตนยังไม่เห็นว่าหมายเรียกมีไปถึงประธานวุฒิสภาหรือรองประธานวุฒิสภาหรือไม่ เพราะชื่อที่ปรากฏในสื่อมีเพียง 6 คน แต่บางสำนักระบุว่า รวมถึงประธานและรองประธานวุฒิสภาด้วย
“มารยาททางการเมือง ผู้ที่ถูกหมายเรียกแม้ว่าจะไม่ได้ถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ควรจะแสดงสปิริต หรือมารยาททางการเมืองด้วยการหยุดปฏิบัติหน้าที่เอง เพราะการทำหน้าที่ของผู้ที่ดำรงตำแหน่งประมุขของฝ่ายนิติบัญญัติมีความสำคัญมาก เป็นผู้ควบคุมการลงมติและการประชุม ในขณะที่ตัวเองยังถูกตรวจสอบและมีมูลถึงขั้นเรียกไปให้ข้อมูล กระบวนการตรวจสอบมันเดินมาถึงแล้ว ฉะนั้นถึงแม้ยังไม่มีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่โดยมารยาทแล้วก็ควรที่จะหยุดปฏิบัติหน้าที่เอง ตำแหน่งนี้มีความหมายและมีความสำคัญต่อฝ่ายนิติบัญญัติมาก” น.ส.นันทนา กล่าว
เมื่อถามว่า หลังจากนี้จะทำให้งานของวุฒิสภาสะดุดลงหรือไม่ น.ส.นันทนา กล่าวว่า ต้องดูว่าการเรียกไปในครั้งนี้มีจำนวนทั้งสิ้นเท่าไหร่ และกระบวนการในการตรวจสอบจะใช้เวลานานแค่ไหน ถ้าใช้เวลานานจนเกินไป การปฏิบัติหน้าที่ของวุฒิสภาอาจจะสะดุดได้ ฉะนั้น ผู้ที่เกี่ยวข้อง หน่วยงานที่ดำเนินการอยู่คงจะต้องเร่ง เพื่อไม่ให้กระบวนการนิติบัญญัติในฝั่งวุฒิสภาสะดุดหยุดลง
