
เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามดูแลการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย โดย วิดีโอ คอนเฟอร์เร้นท์ กับผู้ว่าราชการจังหวัด 7 จังหวัดชายแดน ประกอบด้วย อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ตราด จันทบุรี และสระแก้ว โดยมี นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย, นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย, นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง และนายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมการประชุม
นายกรัฐมนตรี กล่าวในที่ประชุม ซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ว่า เห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลง แต่อยากให้ทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชนต่ออย่างเข้มแข็ง ไม่มีการเปลี่ยนแปลง และตนมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกท่านที่อาสามาอยู่ตรงนี้ได้ดูแลประชาชนมาระยะต่างกัน ตนคิดว่าเมื่อเอาประเทศชาติและประชาชนเป็นหลักก็จะสร้างเป้าหมายว่าจะทำอย่างไรต่อ ในเรื่องสถานการณ์ชายแดน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีการลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ และพบกับผู้ว่าราชการจังหวัดและมีการพูดคุยถึงเรื่องหลุมหลบภัย และบังเกอร์ โดยมีการสั่งการให้ทำเพิ่มเติม ตนอยากเน้นย้ำว่า พวกบังเกอร์ที่มีขอให้ช่วยดูเรื่องของคุณภาพให้ดี เนื่องจากไม่แน่ใจว่า บังเกอร์ที่ชาวบ้านทำเอง จะสามารถป้องกันได้มากน้อยเพียงใด และบังเกอร์ที่สร้างอย่างรวดเร็ว ก็ไม่แน่ใจว่าสามารถป้องกันอะไรได้บ้าง จึงอยากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดช่วยดู
นอกจากนี้ได้มีการพูดคุยกับหน่วยงานด้านความมั่นคงในเรื่องยุทโธปกรณ์ต่างๆที่ยังไม่เพียงพอ หรือมีอะไรที่ยังไม่ค่อยทันสมัย จึงไม่อยากให้ประชาชนได้ต้องเป็นห่วง และขอให้ทางกองทัพช่วยกันดู ว่าของเรานั้นมีความพร้อมอยู่เสมอ แน่นอนว่าต้องการเลี่ยงการปะทะอย่างแน่นอน แต่หากเกิดสุดวิสัย ก็ต้องรักษาชีวิตของทหารชายแดนนับหมื่นคน และรัฐบาลยังคงให้ความสำคัญกับความปลอดภัยชีวิตของประชาชนเป็นหลัก ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญและที่ตนเคยบอกไปก่อนหน้านี้มหาดไทยเป็นบ้าน ทหารเป็นรั้ว มหาดไทยเองก็ต้องดูแลคนในบ้านให้ปลอดภัย ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ

ส่วนในพื้นที่ 7 จังหวัดก็มีผู้ว่าราชการจังหวัดนายอำเภอ นายกองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ขอให้ดูแลประชาชน ในการปฏิบัติพื้นที่ส่วนหลัง ตอนนี้รัฐบาลกำลังพูดคุย ไม่ให้เกิดการปะทะไม่เกิดความรุนแรง แต่ขอให้มีการเตรียมความพร้อมทุกอย่าง หากเกิดเหตุการณ์มีการปะทะ โรงพยาบาลและทุกอย่างต้องมีความพร้อม บุคลากรต้องพร้อม พร้อม ควบคู่ไปกับเรื่องยาเสพติดในพื้นที่ แม้ว่าจะสามารถปราบไปได้เยอะมากๆในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งก็ได้รับเสียงสะท้อนจากสส.ว่าเราจับล็อตใหญ่ๆไปได้ แต่ยังมีล็อตที่เข้ามาแล้วในหมู่บ้านชุมชน ที่เป็นล็อตเล็กๆแต่มีการกระจายถึงชาวบ้านอยู่ นี่ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ขอให้ช่วยเป็นหูเป็นตา และดูแลความปลอดภัยของชาวบ้าน ที่นำข้อมูลเรื่องยาเสพติดมาให้ ไม่อยากให้ต้องรู้สึกกลัวและไม่บอกข้อมูลข้อเท็จจริง ซึ่งจากที่ได้คุยกับสส.และภาคต่างๆ ชาวบ้านจะไม่ค่อยกล้าบอก ทางผู้ว่าราชการจังหวัดหรือผู้ใหญ่บ้านซึ่งสส.ก็ได้รับรู้มาบ้าง จึงอยากขอให้สร้างความมั่นใจว่า เขาสามารถให้ข้อมูลได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดที่เกิดขึ้นในชุมชน พร้อมกับสร้างความ มั่นใจในเรื่องของข่าวปลอม โดยอยากให้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากเพจหลัก
ช่วงท้ายนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตนเชื่อมั่นและทราบฝีมือ และมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะสามารถทำประโยชน์และทำงานอย่างต่อเนื่อง ขอให้ช่วยกันทำงานให้เข้มแข็งที่สุด และสัญญาว่ารัฐบาล ไม่ทิ้งกระทรวงไหน และมั่นใจว่าทุกกระทรวงจะสามารถทำประโยชน์ให้กับประชาชนได้ ขอให้ยึดเป้าหมายเป็นสำคัญ
ต่อจากนั้นเวลา 11.30 น. นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปยังจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อพบปะกำลังพลกองกำลังสุรนารี และมอบสิ่งของบำรุงขวัญ ณ ฐานปฏิบัติการมรกต ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน