
เมื่อเวลา 11.50 น.วันที่ 6 มิถุนายน 2568 ที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)ว่า ในที่ประชุมได้พูดคุยถึงมาตรการต่างๆที่พร้อมรับมือ อย่างภาพที่ออกไปเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. เห็นว่านายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม นำทีมกองทัพไปคุยกับทางกัมพูชา มีการคุยกันทุกอย่างตอนนี้โอเค และได้คุยกันว่าทุกหน่วยทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นทางกองทัพหรือรัฐบาลมาปรึกษากันก่อนดำเนินการใดๆตลอดและอำนาจไหนหน้าที่ไหนเป็นของใครเราคุยกันอย่างดี และทราบในหน้าที่ของตัวเองอย่างดี
น.ส.แพทองธาร ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)ว่า ในที่ประชุมได้พูดคุยถึงมาตรการต่างๆที่พร้อมรับมือ อย่างภาพที่ออกไปเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. เห็นว่านายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม นำทีมกองทัพไปคุยกับทางกัมพูชา มีการคุยกันทุกอย่างตอนนี้โอเค และได้คุยกันว่าทุกหน่วยทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นทางกองทัพหรือรัฐบาลมาปรึกษากันก่อนดำเนินการใดๆตลอดและอำนาจไหนหน้าที่ไหนเป็นของใครเราคุยกันอย่างดี และทราบในหน้าที่ของตัวเองอย่างดี
ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องการตอนนี้คือความเป็นเอกภาพในการทำงานทั้งหมด ซึ่งได้คุยกับนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯและรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ไม่อยากให้เกิดกระแสหรือการปลุกปั่นใดๆว่ารัฐบาลหรือกองทัพมีปัญหากัน จริงๆไม่มีปัญหาอะไรเลย มีการทำงานสนับสนุนกันอย่างดีเสมอ และมีอำนาจหน้าที่อะไรต่างๆก็เคลียร์กันให้หมดว่าถึงหน้างานกองทัพสามารถตัดสินใจได้เลย เคลียร์กันในเนื้องานทั้งหมดแล้ว และในเรื่องของการเจรจาหรือรายละเอียดข้างในที่พูดคุยกันอาจไม่ได้ลงในรายละเอียดทั้งหมด แต่ในกรอบความเข้าใจก็เกิดความเข้าใจกันยังไม่มีความรุนแรงที่ขยายมากยิ่งขึ้น ทางกองทัพเองก็ยืนยันในการจำกัดความรุนแรงไม่ให้เกิดขึ้น ซึ่งเป็นแนวทางที่รัฐบาลสนับสนุน
เมื่อถามว่า เรื่องอธิปไตยเป็นเรื่องอ่อนไหว ประชาชนรอฟังว่ารัฐบาลจะทำอย่างไร คนในชาติรอฟังอยู่ ขณะที่คนข้างชาติก็เป็นเพื่อนบ้าน หากมีคนบุกรุกไปที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ไปปักหลักอยู่ นายกฯจะทำอย่างไร โดยเฉพาะพื้นที่ 200 เมตร ที่มีกระแสว่ารุกล้ำเข้มา นายกฯมีวิธีแก้อย่างไรให้รวดเร็วกว่านี้
นายกฯ กล่าวว่า วันที่ 5 มิ.ย.มีการคุยกันแล้วในเรื่องที่คุยตกลงกันแต่รายละเอียดทุกอย่างที่คุยเราต้องเคารพกันทั้งสองฝ่ายว่ารายละเอียดให้ได้มากน้อยแค่ไหน เพราะอันนี้อยู่ในขั้นตอนการเจรจา ทราบดีว่าอยากได้เนื้อข่าว อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม แต่ตอนนี้ที่คุยกันทั้งสองฝ่ายเป็นไปด้วยความโอเคหมด การเจรจาและกองทัพก็ออกมายืนยันแล้วว่าเหตุการณ์ทุกอย่างเตรียมพร้อมทุกรูปแบบสำหรับทุกๆสถานการณ์ ซึ่งกองทัพเองทราบอยู่แล้วว่าเหตุการณ์หน้างานเป็นอย่างไร แล้วต้องปะทะหรือยัง อันนี้เป็นการตัดสินใจของกองทัพ ก็ให้หน้างานดูเลยว่ามันต้องปะทะหรือเปล่า
“แต่ถ้าไม่จำเป็นต้องปะทะการที่เราจะปะทะไปความเสียหายมากกว่าแรงเชียร์ที่จะให้เกิดการปะทะ ตรงนั้นต้องใช้สันติวิธีให้ได้มากที่สุด ซึ่งตอนนี้ไม่มีใครช้า ในเรื่องนี้ทุกคนทำกันหมดแล้ว และก็คุยกันหมดแล้ว แต่เลือกว่าเราจะฟังส่วนไหนไม่ฟังส่วนไหนมากกว่า เพราะจริงๆออกแถลงการณ์มา 2 ฉบับจากรัฐบาลเรียบร้อยหมดแล้วในการดำเนินการและข้อตกลงแนวทางที่ประเทศไทยจะไปต่อ” น.ส.แพทองธาร กล่าว