นายกฯปลุกพลังสตรีมีความมั่นใจกล้าทำตามความฝันพิ่มโอกาสให้กับตนเอง

เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดโครงการ “พลังสตรีเพื่อการพัฒนา เสริมสร้างโอกาส สร้างอนาคต” โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เป็นผู้กล่าวรายงาน และมีคณะรัฐมนตรี(ครม.) ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ผู้บริหารส่วนราชการ คณะทูตานุทูต สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาคมแม่บ้านมหาดไทย คณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี คณะอนุกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี หัวหน้าและคณะทำงานขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ประธานและผู้แทนคณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัด สมาชิกกลุ่มอาชีพกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีที่ประสบความสำเร็จ เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน รวมทั้งผู้แทนจากภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ภาคธุรกิจ และผู้นำสตรีจากภาคีเครือข่ายทั่วประเทศ ร่วมงานมากกว่า 2,000 คน ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ อิมแพค เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตนเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 2 ของประเทศไทย ที่มาสานต่อการพัฒนาต่อยอดกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีที่เกิดขึ้นโดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย ด้วยความเชื่อว่า ผู้หญิงไทยมีศักยภาพที่สูงมากถ้าได้รับโอกาส โดยตลอด 13 ปีที่ผ่านมา กองทุนฯ ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตผู้หญิงได้เป็นจำนวนมาก สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของตนเองและคนรอบข้างได้อย่างแท้จริงมีการนำแนวความคิดมาเปลี่ยนเป็นโครงการ แปลงสู่เงินลงทุน สร้างธุรกิจเติบโตจากศูนย์จนถึงทุกวันนี้ได้ ขอยืนยันว่ากองทุนฯ นี้จะถูกสนับสนุนต่อไปให้กับน้อง ๆ ที่จะเข้ามาประกวดโมเดลเพื่อมีโอกาสสร้างอาชีพที่ตัวเองรักและชอบ และเปิดโอกาสเติมความฝันให้เป็นจริงได้

“ขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดและเจ้าหน้าที่กรมการพัฒนาชุมชนที่ทำงานอย่างมุ่งมั่นเคียงข้างผู้หญิงไทยทุกคน ตลอดจนทุกภาคส่วนที่ช่วยกันผลักดันทำให้กองทุนพัฒนาบทบาทสตรียังคงอยู่อย่างแข็งแรง ซึ่งกองทุนฯ นี้จะไม่ใช่แค่กองทุนของรัฐแต่เป็นพลังของประชาชนที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้จริง ดังคำกล่าวที่ว่า When Women Support Each Other, Incredible Things Happen เมื่อเรา support ซึ่งกันและกันเป็น Empower ซึ่งกันและกัน เมื่อผู้หญิงที่มีความมั่นใจ support ผู้หญิงอีกคนให้มีความมั่นใจ ให้กล้าทำ กล้าตามความฝัน กล้าไปตามสิ่งที่ตนเองวางแผนไว้ เพิ่มโอกาสให้กับตนเอง เพิ่มโอกาสให้กับคนในสังคม เมื่อนั้นพลังแบบนี้จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะนี่คือพลังสตรีไทย พลังแห่งความยั่งยืน” น.ส.แพทองธาร กล่าว

ด้าน นายอนุทิน กล่าวว่า โครงการพลังสตรีเพื่อการพัฒนา เสริมสร้างโอกาส สร้างอนาคต มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีในการนำเสนอนโยบาย แนวทางการพัฒนา และเป้าหมายในการดำเนินงานของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวแก่สาธารณชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ส่งเสริมให้เกิดการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อสตรีในชุมชนทั่วประเทศ

สำหรับ การจัดโครงการในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการกิจในการขับเคลื่อนประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 2 ของกระทรวงมหาดไทย คือ การลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม สร้างความเข้มแข็งของชุมชน และพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก” ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของ น.ส.แพทองธาร ที่ให้ความสำคัญกับการเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกกลุ่มได้เข้าถึงสวัสดิการของรัฐ และพัฒนาศักยภาพของตนได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ยังสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ ที่เน้นความเท่าเทียม ทั่วถึง และการเสริมสร้างศักยภาพของสตรีในทุกมิติ

“น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นสุภาพสตรีที่ทรงพลังยิ่งของพวกเรา เป็นจุดเริ่มต้นของการขับเคลื่อนพลังสตรีให้กลายเป็นพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนของสังคมไทย และโดยส่วนตัว ขอกล่าวถึงพลังของสตรีที่เกิดขึ้นในการพูดคุยระหว่างเดินทางไปปฏิบัติราชการที่จังหวัดสุรินทร์เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 68 ท่านนายกรัฐมนตรีได้กรุณาถามท่านรองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ว่า เวลาคุณพี่ที่บ้าน ทำให้ท่านโกรธท่านทำยังไง ท่านภูมิธรรมยกมือซ้ายตะเบ๊ะ ดังนั้น ขนาด รมว.กลาโหม ขนาดไหน เมื่อท่านนายกรัฐมนตรีหันมาถามตน ตนตอบว่า ตนยก 2 มือเลย และไหว้ ดังนั้น ไม่ต้องพูดเลยว่าพวกเราทั้งหลายที่เป็นบุรุษจะให้ความเกรงใจและเชื่อมั่นในศักยภาพของสตรีเพียงใด” นายอนุทิน กล่าว

ขณะที่ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กล่าวว่า คนมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของสตรีไทย และตนมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าการลงทุนกับสตรีไทยนั้น จะเป็นสิ่งที่ไม่สูญเปล่า และจะคุ้มค่าเสมอ เพราะรัฐบาลมีเป้าหมายใหญ่ๆนั่นคือ การดำเนินโครงการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีให้อยู่อย่างต่อเนื่อง เพราะเราเชื่อมั่นและมั่นใจว่า กองทุนนี้จะเป็นโอกาสและเป็นที่พึ่งพิง ให้กับสตรีไทยได้ ในภาวะที่เขาลำบาก ไม่ว่าจะเป็นสตรีในยุคปัจจุบันหรือสตรีในรุ่นต่อ ๆ ไป

“ภาพรวมการดำเนินกิจการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี 4 เรื่อง ในปีนี้และปีต่อ ๆ ไป 1. อนุมัติเพิ่มวงเงินเงินทุนหมุนเวียนให้สมาชิกกู้ได้เพิ่มเติมมากกว่า 2,000 ล้านบาท ให้สตรีทุกพื้นที่เข้าถึงแหล่งทุนอย่างเท่าเทียม เพื่อนำไปต่อยอดกิจการและสร้างรายได้ให้ครอบครัว 2. ปรับภาพลักษณ์กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีใหม่ทั้งระบบให้ทัดเทียมกองทุนสตรีระดับโลก จากกองทุนของภาครัฐสู่การเป็นแบรนด์แห่งโอกาส พื้นที่ที่ผู้หญิงไทยทุกคนจะได้ใช้ศักยภาพอย่างเต็มที่ 3. การประกวดโมเดลธุรกิจในระดับมหาวิทยาลัย (Empower Young Women) ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 500,000 บาท เพื่อให้กองทุนฯ มีโมเดลธุรกิจที่นำไปต่อยอดได้ทันทีโดยไม่ต้องเริ่มจากศูนย์ ทำให้สตรีทุกช่วงวัยทั่วประเทศเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนกองทุนนี้ไปด้วยกัน 4. ก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลเพื่อให้ผู้หญิงไทยเข้าถึงโอกาสได้เร็วขึ้น ผ่าน Application ทางรัฐ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ จะทำให้เปลี่ยนแปลงกองทุนฯ จากการเข้าถึงโอกาสสู่การเป็นเจ้าของโอกาส เพื่อสร้างสรรค์ประเทศไทยให้มีแต่สิ่งที่ดีตลอดไป” น.ส.ธีรรัตน์ กล่าว

Message us