
เมื่อวันที่ 31 พ.ค. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณภายหลังจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วาระแรก ด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 322 เสียง และไม่เห็นด้วย 158 เสียง โดยยืนยันว่า รัฐบาลตระหนักดีว่าการจัดทำงบประมาณในครั้งนี้ ดำเนินการภายใต้ข้อจำกัดของวงเงินงบประมาณรายจ่าย, มาตรการกีดกันทางการค้าของประเทศเศรษฐกิจหลัก, ปัญหาความขัดแย้งด้านภูมิศาสตร์, การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงสภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีปัจจัยกระทบจากรอบด้าน ความไม่แน่นอนของสภาวะเศรษฐกิจในประเทศ ที่มีผลกระทบมากมาย เราจะสามารถขับเคลื่อนประเทศให้ไปต่อได้ ด้วยนโยบายต่างๆ ที่ได้เสนอต่อสภาฯ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หวังเป็นอย่างยิ่งว่างบประมาณที่ได้เสนอไป จะสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนคนไทยทุกคน รัฐบาลมุ่งมั่น และตั้งใจที่จะใช้งบประมาณ เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ตามที่ได้แถลงนโยบายไว้ต่อรัฐสภา โดยคำนึงถึงการจัดลำดับความสำคัญของงบประมาณ เพื่อจะรองรับปัญหาเร่งด่วนซ้ำซาก เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของทุนมนุษย์ และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสนับสนุนขับเคลื่อนการพัฒนาแนวทางตามยุทธศาสตร์ชาติอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ การจัดทำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 มุ่งเน้นการสนับสนุนเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ลดความเหลื่อมล้ำในทุกมิติ และสร้างโอกาสให้กับประชาชนทุกกลุ่ม ให้เข้าถึงทรัพยากรที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม รวมถึงการมุ่งเน้นการรักษาวินัยการเงินการคลังของประเทศ ให้เป็นไปตามกรอบที่กฎหมายกำหนด
สำหรับข้อคิดเห็น ข้อสังเกต รวมถึงข้อเสนอแนะต่าง ๆ ที่สมาชิกได้อภิปรายไว้ ขอฝากคณะกรรมาธิการวิสามัญที่จัดตั้งขึ้นโดยสภาฯ แห่งนี้ นำไปประกอบการพิจารณาอย่างละเอียดและครบถ้วนต่อไป รัฐบาลชุดนี้จะทุ่มเทแรงกายแรงใจในการทำนโยบายทุก ๆ นโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้เป็นรูปธรรม จะลดรายจ่ายของประชาชน เพิ่มรายได้ และขยายโอกาส รวมถึงจะใช้เม็ดเงินจาก พ.ร.บ.งบประมาณฉบับนี้ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน
“ทราบดี ตามที่ทุกคนบอกว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย และทราบดี ว่าประชาชนไม่ได้ส่งเรามาเพื่อทำเรื่องง่าย ๆ รัฐบาลทำหน้าที่ในการบริหาร และฝ่ายค้านเป็นผู้ตรวจสอบ ถ้าเราทั้งสองมุ่งเน้นผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก เป็นใจความสำคัญ มั่นใจว่า เราจะสามารถทำให้ประเทศผ่านวิกฤตไปได้ และสามารถทำให้เห็นผลสำเร็จร่วมกันได้แน่นอน” นายกรัฐมนตรี กล่าว