นายกฯหารือสภาแห่งชาติเวียดนามกระชับสัมพันธ์ด้านนิติบัญญัติให้แน่นแฟ้น

เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม เวลา 16.00 น. ณ ห้อง Hoa Sen สภาแห่งชาติเวียดนาม กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม น.ส.แพทองธาสร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าเยี่ยมคารวะนายเจิ่น แทงห์ เหมิน (H.E. Mr. Tran Thanh Man) ประธานสภาแห่งชาติเวียดนาม ในโอกาสการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการ

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความยินดีที่ได้พบประธานสภาฯ ในโอกาสสำคัญนี้ พร้อมระบุว่าความสัมพันธ์ระหว่างไทยและเวียดนามมีความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในระดับรัฐบาล ซึ่งในการเยือนครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะได้หารือกับผู้นำเวียดนาม และร่วมประชุม Joint Cabinet Retreat (JCR) ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเป็นกลไกพิเศษที่เวียดนามมีเฉพาะกับไทย พร้อมประกาศยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์รอบด้าน (Comprehensive Strategic Partnership) เพื่อยกระดับความร่วมมืออย่างรอบด้านและเป็นรูปธรรม รวมทั้งส่งเสริมความสัมพันธ์ในระดับประชาชน-ประชาชน ด้วย 



ด้านความร่วมมือเชิงนิติบัญญัตินั้น นายกรัฐมนตรีและประธานสภาฯเวียดนาม ต่างยินดีที่รัฐสภาทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ใกล้ชิด และหวังว่าจะขยายความร่วมมือในการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยและเวียดนามอย่างต่อเนื่อง การใช้ประโยชน์จากกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย-เวียดนามให้มากขึ้น และการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านนิติบัญญัติ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาประเทศและความเข้าใจซึ่งกันและกัน  โดยนายกรัฐมนตรียังได้เชิญประธานสภาฯ เวียดนามเยือนไทยอย่างเป็นทางการในโอกาสที่เหมาะสม



นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะชาวไทยเชื้อสายเวียดนามกว่า 1 แสนคน ถือเป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์อย่างยั่งยืน 

นายกรัฐมนตรีเสนอให้มีการจัดแคมเปญร่วมส่งเสริมธุรกิจและการท่องเที่ยวระหว่างเวียดนามกับจังหวัดในภาคอีสานของไทย พร้อมมอบหมายให้เมืองคู่มิตรของทั้งสองประเทศกว่า 20 คู่เมือง  ดำเนินกิจกรรมเชื่อมโยงเศรษฐกิจท้องถิ่น (business matching) อย่างต่อเนื่อง และการเชื่อมโยงคมนาคม ทั้งทางบกและเส้นทางการบิน  ซึ่งไทยยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวเวียดนามด้วย



นายกรัฐมนตรีและประธานสภาฯ เวียดนาม เชื่อมั่นว่าความร่วมมือระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติและประชาชนของทั้งสองประเทศ จะเป็นพลังสำคัญในการสนับสนุนความสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม ที่ยั่งยืนทั้งในระดับทวิภาคีและภูมิภาค พร้อมแสดงความตั้งใจที่จะผลักดันความร่วมมือรัฐสภาของทั้งสองประเทศทั้งในระดับทวิภาคีและกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศ ในทุกมิติให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นต่อไป

Message us