
เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่ PC Space อาคารวรรณสรณ์ เขตพญาไท พรรคเพื่อชาติ (พ.ช.) เปิดตัวนโยบายกลางของพรรค นำโดย น.ส.ปวิศรัฐฐ์ ติยะไพรัช หัวหน้าพรรค, น.ส.พลอยนภัส โจววณิชย์ รองหัวหน้าพรรค, นายปวีย์ภัทร วัฒนศิริเศรษฐ โฆษกพรรค, นายรักษ์ชาติ วงศ์อธิชาติ รองเลขาธิการพรรค และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเข้าร่วมงาน
น.ส.ปวิศรัฐฐ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อชาติให้ความสำคัญกับนโยบายการศึกษาเป็นลำดับแรก เป็นนโยบายที่มองเห็นคนทุกคน ไม่ว่าจะเป็นใคร เราอยากจะให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ การศึกษาตลอดชีวิต นโยบายที่ 1 การปฏิรูป กศน. จะต้องเป็นการเรียนที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้เรียนอย่างแท้จริง ตอบโจทย์ตลาดแรงงาน สามารถเก็บหน่วยกิตไปฝึกงานกับภาคเอกชนได้ ต้องเป็นหลักสูตรที่ทันสมัยเหมาะกับยุคปัจจุบัน

นโยบายที่ 2 ปฏิรูปอาชีวะ เรามองเห็นนักเรียนอาชีวะว่าสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้ไม่แพ้กัน ดังนั้น อาชีวะจะต้องได้เงินเดือนเท่ากับผู้ที่จบปริญญาตรี หลักสูตรต้องทันสมัย เช่น การเรียนผลิตสื่อออนไลน์ หรือหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับการทำเบื้องหลัง อุตสาหกรรมภาพยนตร์ นี่คือสิ่งที่หลักสูตรอาชีวะต้องมีการปฏิรูปให้ทันสมัยยิ่งขึ้น
น.ส.ปวิศรัฐฐ์กล่าวว่า นโยบายที่ 3 ครูอัตราจ้างต้องได้รับเงินเดือนตามวุฒิ ยังมีคุณครูที่ได้รับเงินเดือนเพียงแค่เดือนละ 4,000-5,000 บาทเท่านั้น ครูที่ยังลำบากอยู่จะดูแลอนาคตของชาติได้อย่างไร นโยบายที่ 4 เกี่ยวกับกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) จะต้องกู้ง่าย ไม่มีคนค้ำประกัน ปลอดดอกเบี้ย กยศ. จะต้องเชื่อมโยงกับองค์กรที่เยาวชนจะออกไปทำงานในอนาคต เราจะต้องการันตีอาชีพภาคบังคับขั้นต่ำ 24 เดือน โดย 6 เดือนแรกยังไม่ต้องชำระหนี้คืน กยศ. นี่เป็นเพียงบันไดขั้นแรกของเรื่องการเรียนฟรี สิ่งที่พรรคเพื่อชาติมองไปถึงปลายทางสุดท้าย คนไทยทุกคนที่อยากจะเรียนควรได้รับการศึกษา ควรเข้าถึงการศึกษาที่ไม่มีค่าใช้จ่าย

น.ส.ปวิศรัฐฐ์กล่าวต่อว่า นโยบายที่ 5 เรื่องปริญญา หรืออนุปริญญาตามความเฉพาะของพื้นที่ นี่คือนโยบายที่ลงลึกไปถึงพื้นที่ รับฟังจากพื้นที่จริงสามารถได้วุฒิการศึกษาออกมา นโยบายที่ 6 ยกระดับความสำคัญคุณวุฒิวิชาชีพ เรามีสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพอยู่แล้ว แต่จะทำอย่างไรที่จะยกระดับ ต่อยอด รับรองวิชาชีพที่หลากหลายมากขึ้น หากไม่สะดวกเรียนในระบบ ทางสถาบันสามารถออกใบรับรองประกาศนียบัตรให้ นอกจากนี้ควรเชื่อมโยงกับผู้ประกอบการ ภาคเอกชนว่า เราจะรับรองประกาศนี้ให้กับคนไทยด้วย
น.ส.ปวิศรัฐฐ์กล่าวว่า หมวดที่ 2 นโยบายที่ 1 การยกเลิกเครื่องแบบนักเรียน-นักศึกษา นอกจากจะให้โอกาสเยาวชนได้เลือกแต่งกายตามเพศสภาพ เป็นการเคารพสิทธิมนุษยชนของเยาวชน และเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายผู้ปกครอง รวมถึงเป็นการลดเงินอุดหนุนค่าชุดนักเรียน

“นโยบายที่ 2 เพิ่มคุณภาพและงบอาหารกลางวัน ทุกวันนี้ค่าอาหารกลางวันเป็นเงินเพียง 21 บาทต่อคน เรามีนโยบายเพิ่มค่าอาหารให้ถึง 30 บาทต่อคน ไม่รวมค่านม งบประมาณที่ได้นั้นมาจากการลดเงินอุดหนุนชุดนักเรียน นโยบายที่ 3 ลานเด็กเล็กใกล้บ้าน ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จัดสรรให้มีลานเด็กเล็ก เพื่อให้เติบโตมีพัฒนาการสมวัย ให้เรียนรู้ตามศักยภาพ และใกล้ชิดธรรมชาติ
“นโยบายที่ 4 โรงเรียนปลอดภัยทั้งกายและใจ ความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญ กายและใจต้องไม่พัง ทำให้โรงเรียนเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับลูกหลาน เริ่มแรกให้คำนิยามคำว่า ‘การทำร้ายจิตใจ’ ให้เป็นความรุนแรงเทียบเท่าการทำร้ายร่างกาย จะมีแพลตฟอร์ม หรือแอพพลิเคชั่นที่จะเปิดโอกาสให้เยาวชนสามารถรายงานว่าตนถูกทำร้าย หรือถูกล่วงละเมิดได้โดยตรงทันที ครูที่ล่วงละเมิดนักเรียนไม่ว่าจะทางกาย ใจ ไม่เพียงแค่ถูกย้าย แต่ต้องถูกพักงาน” หัวหน้าพรรคเพื่อชาติระบุ
หัวหน้าพรรคเพื่อชาติระบุว่า การที่พรรคเลือกทำนโยบายเด็กและการศึกษาเป็นเรื่องแรก สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ท้าทายที่สุด เพราะนโยบายด้านการศึกษานั้นขายได้ยาก แต่พรรคเชื่อว่าการศึกษาสามารถเปลี่ยนแปลงประเทศได้จริง สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างแท้จริง หาดพรรคไหนไม่ทำ พรรคเพื่อชาติยิ่งต้องทำ และเราต้องเริ่มทำตั้งแต่วันนี้ทันที เพื่อชาตินี้ของพวกเราทุกคน