
นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยตัวเลขการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนเดือน พ.ค.2568 ว่า มีมูลค่ารวม 200,773 ล้านบาท ขยายตัว 13.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นการส่งออก 128,155 ล้านบาท ขยายตัว 15.1% และการนำเข้า 72,618 ล้านบาท ขยายตัว 11.8% ไทยได้ดุลการค้า 55,537 ล้านบาทโดยการส่งออกผ่านแดนไปจีนขยายตัวสูงถึง 38.7% จากความต้องการผลไม้ของจีนที่สูง เช่น ทุเรียนสด 30,145 ล้านบาท ขยายตัว 23.6% มังคุดสด 3,776 ล้านบาท ขยายตัว 9.6%
สำหรับ การค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน ช่วง 5 เดือนแรก(ม.ค.-พ.ค.) ปี 2568 มีมูลค่ารวม 833,171 ล้านบาท ขยายตัว 11.0% เป็นการส่งออก 480,834 ล้านบาท ขยายตัว 9.8% การนำเข้า 352,337 ล้านบาท ขยายตัว 12.8% ทำให้ไทยได้ดุลการค้า 128,497 ล้านบาท
นางอารดา กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า กรมได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดภายหลังจากฝ่ายความมั่นคงได้ประกาศได้ประกาศมาตรการควบคุมจุดผ่านแดนชายแดนไทย-กัมพูชา โดยประสานสำนักงานพาณิชย์จังหวัด และด่านศุลการชายแดนไทย-กัมพูชา รวบรวมข้อมูลรายงานกระทรวงฯ ให้ทราบเป็นประจำทุกวัน ตลอดจนเข้าร่วมประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ตามที่ได้รับมอบหมายจากกระทรวงฯ
ทั้งนี้ กรมได้เร่งประเมินผลกระทบต่อการค้าไทยกรณีปิดจุดผ่านแดน หากปิดยาวจนถึงสิ้นปีนี้คาดว่าจะส่งผลกระทบทำให้มูลค่าการส่งออกกัมพูชา ลดลงราว 6 หมื่นล้านบาท จากที่ผ่านมาในปี 2567 การค้าชายแดน ไทย-กัมพูชา มีมูลค่ารวม 174,530 ล้านบาท ขยายตัว 7.9% แยกเป็น การส่งออก 141,846 ล้านบาท และการนำเข้า 32,684 ล้านบาท
ส่วนในช่วง 5 เดือนแรก(ม.ค.-พ.ค.) ปี 2568 ค้าชายแดนไทยกับกัมพูชา มีมูลค่า 80,723 ล้านบาท ขยายตัว 11.2% แยกเป็น การส่งออก 63,078 ล้านบาท และการนำเข้า 17,645 ล้านบาท ขณะที่เดือน พ.ค. 2568 มีมูลค่า 16,110 ล้านบาท แยกเป็น การส่งออก 12,852 ล้านบาท และการนำเข้า 3,258 ล้านบาท
นางอารดา กล่าวว่า ประเมินเบื้องต้นการค้าชายแดนผ่านแดนทั้งปี 2568 จะต่ำกว่าเป้าหมายที่จะเติบโต 3-3.2% หรือมูลค่ารวม 1.87 ล้านล้านบาท จากปีก่อนทำไว้ 1.8 ล้านล้านบาท ลดลงกว่า 1% เหลือโตกว่า 1-2% อย่างไรก็ตาม กรมช่วยเหลือผู้ส่งออก และผู้ค้าตามแนวชายแดนกัมพูชาด้วยการจัดพื้นที่ใหม่ให้ค้าขาย ระบายสินค้าผักและผลไม้ที่ได้รับผลกระทบจากการสั่งห้ามนำเข้าของกัมพูชา รวมทั้งการหารือร่วมกับภาคเอกชนเตรียมความพร้อมรองรับในการหาทางเลือกขนส่งสินค้าด้วยช่องทางอื่น ๆ นอกจากช่องทางชายแดน เพื่อบรรเทาผลกระทบด้านเศรษฐกิจให้กับประชาชน