
เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม ที่รัฐสภา เครือข่ายประชาชนร่างรัฐธรรมนูญ และโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือ ไอลอว์ (iLaw) นำโดย นายอานนท์ ชวาลาวัณย์ ผู้จัดการ iLaw , น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล นักกิจกรรมทางการเมือง และ น.ส.บุณยนุช มัทธุจักร เจ้าหน้าที่ iLaw พร้อมด้วยประชาชน เข้าร่วมเดินทางมาด้านหน้าอาคารรัฐสภา ฝั่งวุฒิสภา ริมถนนเกียกกาย เพื่อจัดกิจกรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เป็นการเขียนและส่งข้อความไปถึง สว.อาทิ สว.ต้องหยุดเลือกองค์กรตรวจสอบตัวเอง , สว.องค์กรไม่อิสระ , สว.ต้องหยุดเลือก และ สว.ต้องหยุดเพื่อประเทศไทยไปต่อ เป็นต้น
น.ส.ภัสราวลี กล่าวว่า สืบเนื่องจากวันพรุ่งนี้ (30 พ.ค.) วุฒิสภาจะมีการลงมติเพื่อเลือกบุคคลดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ประกอบด้วย กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) 3 ตำแหน่ง รวมถึงการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติผู้ที่จะดำรงตำแหน่ง ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 2 ตำแหน่ง กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) 1 ตำแหน่ง และอัยการสูงสุด 1 ตำแหน่ง โดยเฉพาะ กกต.และศาลรัฐธรรมนูญ ที่ยังคงมีส่วนสำคัญในประเด็นข้อพิพาท ซึ่ง กกต.ยังมีหน้าที่ตรวจสอบคดีการฮั้ว สว.เช่นเดียวกับศาลรัฐธรรมนูญที่มีประเด็นรับวินิจฉัยกรณี สว.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม

จากนั้น น.ส.บุณยนุช อ่านแถลงการณ์ระบุว่า สว.ชุดแรกที่มาจากการเลือกกันเอง ในบรรดาผู้สมัครไม่ได้มาจากการเลือกตั้งจากประชาชน กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์และตั้งคำถามถึงความโปร่งใส จากกรณี “โกงเลือก สว.” ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำลังทยอยออกหมายเรียกให้ สว.ไปรับทราบข้อกล่าวหาฐานแนะนำตัวฝ่าฝืนหลักเกณฑ์ของ กกต. ข้อหาให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดเพื่อให้ลงคะแนน และข้อหาทุจริตหรือรู้เห็นการทุจริตเลือก สว.ซึ่งหากสุดท้ายแล้วผลคำตัดสินชี้ออกมาว่าผิด ก็จะมี สว.ที่ต้องพ้นตำแหน่งไป และอาจจะมีมากกว่าครึ่งหนึ่งของ สว.ทั้งหมด
น.ส.บุณยนุช กล่าวว่า ระหว่างที่กระบวนการสอบสวนคดีเลือก สว.ยังไม่แล้วเสร็จ วันที่ 30 พ.ค.นี้ สว.ก็กำลังจะใช้อำนาจสำคัญ ในการให้ความเห็นชอบกรรมการ ป.ป.ช.และตั้งคณะ กมธ.สามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และอัยการสูงสุด ซึ่งผู้ดำรงตำแหน่งเหล่านี้ ล้วนมีบทบาทในการตรวจสอบ สว.โดยตรง

ดังนั้น การใช้อำนาจเห็นชอบบุคคลในตำแหน่งต่างๆ เหล่านี้ แม้จะเป็นไปตามขั้นตอนของรัฐธรรมนูญ 2560 แต่ก็ขาดความชอบธรรม และเห็นได้ชัดถึงปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน ระหว่าง สว.ชุดนี้และองค์กรต่างๆ ที่มีอำนาจตรวจสอบ สว.พวกเราจึงขอเสนอความเห็นถึง สว.ดังนี้ 1.ข้อเสนอเฉพาะหน้า คือ สว.ต้องหยุดใช้อำนาจตลอดกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการให้ความเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กรรมการองค์กรอิสระ และข้าราชการระดับสูง เช่น อัยการสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการตั้งกรรมาธิการวิสามัญสอบประวัติ หรือการลงมติให้ความเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว จนกว่าคดีที่ สว.ตกเป็นผู้ถูกร้องจะถึงที่สุด
2.ข้อเสนอระยะยาว คือ สว.ชุดนี้ เป็นเครื่องชี้วัดว่าระบบเลือกกันเองที่ปิดกั้นไม่ให้ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วม มีปัญหา สว.ต้องคืนความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อฝ่ายนิติบัญญัติ แก้ไขปัญหาที่ต้นตอร่วมกันกับ สส.เสนอร่างแก้ไชรัฐธรรมนูญ เพื่อแก้ไขที่มา สว.ที่มาองค์กรตรวจสอบ สว.และต้องโหวตเห็นชอบให้ครบ 67 เสียง เราหวังว่า สว.ที่ไม่ได้มาจากเลือกตั้งโดยประชาชน แต่ใช้อำนาจในฐานะตัวแทนประชาชน จะฟังเสียงประชาชน หยุดใช้อำนาจเลือกองค์กรตรวจสอบตนเอง จนกว่ากระบวนการตรวจสอบ สว.จะถึงที่สุด

