ร้านทองรูปพรรณอ่วมขายไม่ออกเหตุทองแพงกว่า 5 หมื่นฉุดยอดขายวูบกว่า 50%

เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า ในช่วงนี้สถานการณ์ราคาทองคำไทยและทองคำโลกยังคงผันผวน เนื่องจากยังอยู่ในช่วงระยะเวลา 90 วันที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ยืดเวลาการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐให้กับประเทศต่างๆ และสงครามการค้ายังไม่จบ รวมถึงการติดตามรายงานเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐ จึงส่งผลกระทบต่อราคาทองคำอยู่ในภาวะขึ้นๆลงๆ ต้องรอดูสถานการณ์หลังเดือนกรกฎาคมนี้ที่จะมีความชัดเจนเรื่องภาษีของทรัมป์ ทั้งนี้การซื้อเก็งกำไรในระยะสั้นต้องติดตามสถานการณ์ให้ดีและมีความระมัดระวังในเรื่องของราคาเพราะยังคงมีการขึ้นลงอยู่ ส่วนในระยะยาวยังคาดการณ์ว่าราคาทองยังปรับขึ้นต่อตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 นี้เป็นต้นไป โดยมีเป้าหมายปลายปี 2568 นี้ ราคาทองโลกอยู่ที่ 3,800 ดอลลาร์และราคาทองไทยอยู่ที่ 58,000 บาทต่อบาททองคำ อย่างไรก็ดีขึ้นอยู่กับค่าเงินบาทด้วยเช่นกัน

“ช่วงนี้ถือว่าการซื้อขายทองคำในประเทศไทยค่อนข้างลำบาก ขายไม่ดี โดยเฉพาะทองรูปพรรณที่ยอดขายลดลงมากกว่า 50% เมื่อเทียบกับปี 2567 ซึ่งไม่เคยตกมากขนาดนี้มาก่อนและถือว่าครั้งนี้ยอดขายตกมากที่สุดในประวัติการณ์ เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดีอย่างต่อเนื่อง คนไม่มีกำลังซื้อ และทองราคาแพงขึ้นมากในช่วง 2 ปีนี้ โดยปี 2567 ราคาปรับขึ้น 20% และปี 2568 ผ่านมา 6 เดือนราคาปรับขึ้นมากกว่า 20% ทำให้ร้านค้าทองมีปิดตัวไปพอสมควร ขณะที่ช่างทองก็ตกงานไปเยอะ คาดว่าถึงสิ้นปีนี้ น่าจะมีปิดตัวอีกพอสมควร”นายจิตติกล่าว

นายจิตติกล่าวว่า สำหรับราคาทองวันที่ 4 มิถุนายน 2568 มีการปรับขึ้น-ลง จำนวน 9 ครั้ง ปรับขึ้น 250 บาท โดยทองคำแท่งรับซื้อ 51,900 บาทต่อบาททองคำ ขายออก 52,000 บาทต่อบาททองคำ ทองรูปพรรณรับซื้อ 50,861.80 บาทต่อบาททองคำ และขายออก 52,800 บาทต่อบาททองคำ

Message us