ศาลปกครองสูงสุดสั่ง”ยิ่งลักษณ์”ชดใช้ 10,028 ล้านคดีจำนำข้าว

เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่ศาลปกครองสูงสุด นายไพบูลย์ วราหะไพฑูรย์ ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองสูงสุด และตุลาการเจ้าของสำนวนพร้อมองค์คณะ ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาในคดีที่กระทรวงการคลังยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลาง ที่สั่งเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 135/2559 ลงวันที่ 13 ต.ค. 2559 ที่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน กรณีปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการ เป็นเงิน 35,717,273,028 บาท 

ในคดีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ นายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามี ร่วมกันยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงการคลัง สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงคลัง กรมบังคับคดี อธิบดีกรมบังคับคดี และเจ้าพนักงานบังคับคดี สำนักงานบังคับคดีแพ่ง กรุงเทพมหานคร กรณีที่ร่วมกันมีคำสั่งดังกล่าวโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย 

คดีนี้ศาลปกครองชั้นต้นมีคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่ากระทรวงการคลังยอมรับว่าไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่า น.ส. ยิ่งลักษณ์เป็นผู้กระทำให้เกิดความเสียหายโดยตรง และขั้นตอนการตรวจสอบของคณะกรรมการสอบสวนความรับผิดทางละเมิดก็ไม่ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด

ล่าสุด ศาลปกครองสูงสุด วินิจฉัยเพิกถอนคำสั่งของกระทรวงการคลัง ที่สั่งให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ชดใช้ค่าเสียหายโครงการรับจำนำข้าว 35,717,273,028 ล้านบาท ไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่มีคำสั่งให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชดใช้ค่าเสียหายเฉพาะในส่วนขั้นตอนการระบายข้าว (จีทูจี) เนื่องจากเป็นการใช้อำนาจทางปกครองดำเนินการ ซึ่งทาง ป.ป.ช. และ สตง. เคยทำหนังสือเตือนว่าอาจมีการทุจริต แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กลับไม่ดำเนินการใด ๆ เพื่อระงับยับยั้ง จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ทำให้เจ้าหน้าที่แสวงหาผลประโยชน์ ทำให้เกิดความเสียหายต่อรับการเงินการคลังของประเทศ มูลค่า  20,057,723,761 บาท และไม่มีเหตุอันควรยกเว้นความผิด จึงให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่กระทรวงการคลัง ร้อยละ 50 ของความเสียหาย จำนวน 10,028,861,880 บาท

Message us