
เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จไปทรงเปิดโครงการเสวนาวิชาการพระธรรมทูตต่างประเทศคณะธรรมยุต ณ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม จัดขึ้นเพื่อพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมในโลกยุคดิจิทัลและพหุวัฒนธรรม ตั้งแต่วันที่ 21 -25 มิถุนายน 2568 เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติเจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช ทรงเจริญพระชนมายุ 98 พรรษา ในวันพฤหัสบดี ที่ 26 มิถุนายน 2568 อีกทั้งเพื่อส่งเสริมบทบาทพระธรรมทูตไทยในเวทีสากล โดยมีพระธรรมทูตจากนานาประเทศ พระสังฆาธิการ นักวิชาการ และผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ เข้าร่วมกิจกรรม

โครงการนี้มีวัตถุประสงค์หลักในการเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ และแนวทางการพัฒนาศักยภาพของพระธรรมทูต ให้สอดคล้องกับบริบทของโลกยุคใหม่ โดยมุ่งเน้นการสร้างความเข้าใจและความสามารถในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาอย่างลึกซึ้ง รอบด้าน และเหมาะสมกับสังคมพหุวัฒนธรรม เป็นย่างก้าวสำคัญในการบูรณาการความรู้ทางวิชาการ เทคโนโลยี และพระพุทธธรรม เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของพระธรรมทูตไทย ให้สามารถทำหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนาในระดับนานาชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยืนหยัดอยู่บนหลักธรรมอย่างมั่นคง

โอกาสนี้ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช โปรดประทานพระโอวาท ความตอนหนึ่งว่า
“ขออนุโมทนาสาธุการที่ทุกท่านได้มาประชุมพร้อมเพรียงกัน ในการเสวนาวิชาการพระธรรมทูตต่างประเทศคณะธรรมยุต เพื่อพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมในโลกยุคดิจิทัลและพหุวัฒนธรรม ซึ่งมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยจัดขึ้น ในวันนี้
งานพระธรรมทูต ที่บูรพาจารย์คณะสงฆ์ไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคณะธรรมยุต และในมหามกุฏราชวิทยาลัย ได้อุตสาหะบุกเบิกนำทางสรรค์สร้างไว้ ยั่งยืนมาด้วยกำลังของคณะสงฆ์สืบมาทุกยุคทุกสมัย ได้รับภารธุระสืบสานปณิธานให้ยังคงดำรงอยู่ และเจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้นตลอดมา สามารถอำนวยสุขประโยชน์แก่พหูชนทั่วโลก นับเป็นเกียรติภูมิอันแท้จริงของคณะสงฆ์ไทย เพราะฉะนั้น การที่ท่านทั้งหลายตั้งใจทำหน้าที่รับช่วงต่อให้วัฒนาสถาพร ด้วยน้ำใจกตัญญูกตเวทีต่อบูรพาจารย์ และด้วยความตระหนักแน่วแน่ต่อหน้าที่ของพระสงฆ์ นับได้ว่ากำลังกระทำปฏิบัติบูชาอย่างยิ่งต่อสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะเป็นการประกอบกรณียกิจสมด้วยพระพุทธาณัติ ที่ว่า ’จรถ ภิกฺขเว จาริกํ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย’ แปลความว่า ’ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงเที่ยวจาริกไปเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขแก่คนเป็นอันมาก เพื่ออนุเคราะห์แก่ชาวโลก

ผู้ทำหน้าที่จาริกไปเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขของชาวโลกนั้น จัดว่าเป็น ‘มิตรดี‘ ซึ่งต้องมีคุณสมบัติตามหลักพระพุทธศาสนา กล่าวคือ ต้องเป็นคนน่ารัก มีเมตตา อยู่ด้วยแล้วสบายจิตสนิทใจ เป็นคนน่าเคารพ มีความประพฤติหนักแน่น พึ่งพาอาศัยได้ เป็นผู้ฝึกฝนปรับปรุงตนอยู่เสมอ ควรเอาเยี่ยงอย่าง เป็นที่ปรึกษาที่ดี เป็นผู้อดทนต่อการถูกปรึกษาซักถาม เป็นผู้แถลงเรื่องยากซับซ้อนให้เข้าใจได้ง่าย และไม่ชักนำไปในทางเสื่อมเสีย

พระธรรมทูตทุกรูปต่างมีหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนาให้ขจรขจายไปในทิศานุทิศทั่วสากล จึงต้องประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เป็นที่ตั้งแห่งความเลื่อมใสศรัทธาของมหาชน และต้องวางตนเป็นมิตรแท้ ทั้งในหมู่สหธรรมิก ในหมู่พุทธศาสนิกชน ตลอดจนถึงชนต่างชาติ ต่างศาสนา ต่างวัฒนธรรม ในที่ทุกสถานและในกาลทุกเมื่อ”

จากนั้น พระธรรมวชิรจินดาภรณ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย นำเสด็จไปทอดพระเนตรนิทรรศการ แล้วเจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช โปรดประทานพระวโรกาสให้พระภิกษุที่ได้รับประทานทุนการศึกษาในพระนามตามที่ทรงก่อตั้งไว้ ซึ่งจะเดินทางไปศึกษาต่อในระดับบัณฑิตศึกษา ณ สหราชอาณาจักร เฝ้าถวายสักการะและกราบทูลสำนึกในพระกรุณาคุณ ก่อนเสด็จกลับ ทรงปลูกต้นไม้เป็นที่ระลึก

