
เมื่อวันที่ 21 พ.คง ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พล.ต.ต. ฉัตรวรรษ แสงเพชร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) นายอลงกต วรกี สว. และพล.ต.ท.บุญจันทร์ นวลสาย สว. ยื่นหนังสือถึงขอความเป็นธรรม ต่อนายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนส่วนกลาง คณะที่ 26 ว่า มาเพื่อขอความเป็นธรรม ความชอบธรรมให้กับสมาชิกวุฒิสภา ที่ถูกเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา เนื่องจากมองว่าเป็นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบของคณะกรรมการฯ ทั้งละเมิดระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างร้ายแรง สร้างความเสียหายและละเมิดพื้นฐานของผู้ถูกกล่าวหา
ทั้งนี้ ประเด็นข้อร้องเรียน คือ 1. การละเมิดระเบียบกฎหมายเกี่ยวกับการรักษาความลับทางราชการ โดยการออกหนังสือเชิญไม่ใช่หมายเรียกตาม ป.วิอาญาแจ้งข้อกล่าวหารายละเอียดไม่ชัดเจน ไม่เพียงพอที่จะให้การหรือหาพยานหลักฐานมาแก้ข้อกล่าวหาได้ ขัดต่อหลักความเป็นธรรมที่ควรได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งกำหนดให้ผู้ถูกกล่าวหาต้องรับข้อมูลที่เพียงพอสำหรับการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา 2.วิธีปิดหนังสือเชิญไม่รักษาความลับของทางราชการ โดยไม่ปฏิบัติตามระเบียบตามที่กำหนดว่าต้องบรรจุซอง 2 ชั้น และป้องกันการเปิดเผยข้อมูลลับ แต่การปิดหมายที่พักอาศัยของ สว. 6 คนในเขตกรุงเทพฯ ไม่ได้ปฏิบัติตามระเบียบการรักษาความลับทางราชการสร้างความเสียหายแก่ชื่อเสียงและเกียรติยศของผู้ถูกกล่าวหา แม้ว่าจะจงใจหรือไม่ก็ตามในการแจ้งสื่อมวลชนไปทำข่าว แต่ทางการกระทำดังกล่าวถือเป็นเจตนาพิเศษให้เกิดความเสียหายโดยไม่สุจริต
3. การปฏิบัติหน้าที่อย่างไม่เป็นกลางและเลือกปฏิบัติทำให้เกิดความเข้าใจได้ว่าสมาชิกวุฒิสภาที่ถูกเรียกและรับทราบข้อกล่าวหาเป็นผู้กระทำความผิด เป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา ตามที่สื่อมวลชนเสนอข่าวหลายแขนงรับฟังได้ว่ามี สว.กลุ่ม 8 + 1 หรือ กลุ่ม 21 + 24 ที่ไม่ปรากฏว่ามีการสืบสวนไต่สวนแต่อย่างใด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความไม่เป็นกลางและอาจมีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง มุ่งเฉพาะกลุ่มดังกล่าว ทั้งนี้ กกต. เป็นองค์กรอิสระปราศจากการครอบงำความทางการเมือง แต่มีข้อน่าสังเกตว่าคณะกรรมการชุดที่ 26 มีเจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ 3 คนร่วมเป็นกรรมการ ซึ่งเป็นหน่วยงานในกำกับดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่อาจเข้าใจได้ว่าการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง และศาลรัฐธรรมนูญได้สั่งให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หยุดปฎิบัติหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ ดีเอสไอ ดังนั้นจึงสามารถที่จะยืนยันได้ว่าการสืบสวนการได้มาของ ดีเอสไอ ตั้งแต่การตั้งเป็นคดีสืบสวนที่ 151 / 2567 การสืบสวนซึ่งการได้มาสมาชิกวุฒิสภา ตาม พ.ร.บ. กรมสอบสวนคดีพิเศษ 2547 ไม่ได้ให้อำนาจไว้ ซึ่งตนได้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญและป.ป.ช.ตรวจสอบในการปฎิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการ กคพ.

พล.ต.ต. ฉัตรวรรษ กล่าวว่า ขอร้องเรียนประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง 1. ให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการสืบสวนไต่สวนชุดที่ 26 เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ 2.ให้มีการเพิกถอนกระบวนการที่เกิดจากการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบทั้งหมด โดยเฉพาะส่วนที่นัดมาและการสอบสวนมาจากดีเอสไอ และไม่ให้นำสำนวนที่ได้รับจากดีเอสไอมาร่วมด้วย และ 3.ให้ผู้ถูกกล่าวหาให้มีโอกาสได้ตรวจสอบและเข้าถึงพยานหลักฐานทั้งหมดที่ใช้ตั้งข้อกล่าวหา เพื่อป้องกันสิทธิ์และผลประโยชน์ของตนเอง ทั้งนี้ขอให้ กกต. ตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างรอบคอบ รอบด้าน เพื่อให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ในหลักการปฎิบัติหน้าที่ด้วยความยุติธรรม เสมอภาค ความเป็นกลาง เพื่อรักษาความน่าเชื่อถือขององค์กรอิสระของคณะกรรมการการเลือกตั้ง
เมื่อถามว่า จะยอมรับการตรวจสอบของคณะกรรมการสืบสวนฯ ชุดที่ 26 หรือไม่ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวว่า เรายอมรับการตรวจสอบของ กกต.ที่เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม เมื่อถามย้ำว่า ถ้าเป็นกรรมการชุดที่ 26 ที่มีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอรวมอยู่ด้วยจะยอมรับหรือไม่ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวว่า ตนได้กล่าวแล้วว่า ถ้าการสอบสวนเป็นของ กกต. การตั้งกรรมการชุดที่ 26 ถ้าปราศจากการครอบงำทางการเมือง ตนเคยพูดแล้วว่าการดำเนินการของดีเอสไอตั้งแต่ชั้นสอบสวน มีการเบี่ยงเบนประเด็นการทำงานมายืมมือกรรมการสืบสวนฯ ซึ่งประธานคณะกรรมการสอบสวนฯ ควรตั้งคนที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอมาร่วมเป็นกรรมการ ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พนักงานอัยการ หรือส่วนที่เกี่ยวข้องที่จะให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหาได้ เพราะการกล่าวหาที่ครอบคลุม เคลือบแคลง เป็นที่สงสัย ทำให้สว.ทุกท่านมาให้ข้อมูลได้ไม่ชัดเจน ซึ่งจากการนำเสนอของสื่อ ทำให้การสอบสวนกลายเป็นการฟังผู้ร้องฝ่ายเดียว โดยไม่ดูพยานหลักฐานว่าเพียงพอที่จะยืนยันการกล่าวหาได้หรือไม่
เมื่อถามว่า ถ้ายังมีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอร่วมเป็นกรรมการอยู่ จะให้ความร่วมมือในการชี้แจงข้อกล่าวหรือไม่ หรือจะดำเนินการอย่างไรต่อ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวว่า เรายืนยันว่าพร้อมให้ความร่วมมือกับ กกต. แต่เรามีเหตุเคลือบแคลงสงสัยว่า การได้มาซึ่งพยานหลักฐาน แล้วมากล่าวหาทำให้เราไม่สามารถชี้แจงข้อกล่าวหาได้อย่างชัดเจน แต่จะเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ดีเอสไอออกหรือไม่ ก็เป็นหน้าที่ของประธาน กกต.ซึ่งตนก็ได้เสนอ

เมื่อถามย้ำว่า ประธานกกต.และเลขาฯ กกต.ไม่ได้สัมภาษณ์ปฏิเสธการทำงานของคณะกรรมการสอบสวนฯ ที่ 26 พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวว่า ตนให้เป็นข้อสังเกตให้สังคมได้รับทราบ แต่ตนไม่ได้ต่อสู้หรืออะไร กระบวนการถ้าชอบด้วยกฎหมาย มีอำนาจก็ทำไปตามหน้าที่ แต่ถ้าไม่มีอำนาจตามกฎหมาย หรือกฎหมายไม่ให้อำนาจ การกระทำดังกล่าวก็ต้องรับผิดชอบ การชี้ถูกชี้ผิดเป็นเรื่องที่ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม การไต่สวน การพิจารณาอยู่ที่ กกต.แต่การออกมาชี้นำสื่อให้สังคมมองว่า การได้มาของ สว. เป็นที่ไม่สุจริตและเที่ยงธรรม ทั้งที่ กกต.รับรองพวกเราให้ปฏิบัติหน้าที่มาระยะหนึ่งแล้ว ที่ผ่านมาทุกการเลือกตั้งไม่เคยมีเหตุ แต่เมื่อมีเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งจากทางการเมือง ตามที่มีการเสนอข่าว
เมื่อถามว่า มีการมองว่า สว.มีการฝักใฝ่พรรคการเมือง วันนี้จึงมีการมายื่นยุบพรรค พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวว่า ไม่เคยปรากฏ หน้าผากตนเขียนไหมว่าชื่อพรรคไหน ดังนั้น ตนได้เป็น สว. จากการทำงานในราชการมา ด้วยความรู้ความสามารถ และว่า วันนี้ตนเป็นตัวแทนของผู้ถูกกล่าวหาที่ถูกเรียกให้มาชี้แจง
ด้าน พล.ต.ท.บุญจันทร์ นวลสาย สมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่า ตอนนี้สังคมตราหน้าว่าพวกเราฮั้ว ก่อนจะย้อนถามว่าฮั้วคืออะไร พร้อมขอให้อย่าพูดคำนี้เพราะพวกเรามีศักดิ์และมีศรี ส่วนตัวตนรับราชการมาจนเกษียณได้รับคำกล่าวหานี้ก็รู้สึกเสียใจเหมือนกัน เพราะกว่าที่จะผ่านการคัดเลือกในแต่ละรอบ กฎหมายระบุว่าสามารถแนะนำตัวได้เพื่อให้รู้จักกัน แล้วการรู้จักกันเยอะๆ เพื่อให้มีการเลือกกันเป็นความผิดด้วยหรือไม่ พร้อมตั้งคำถามถึงการส่งหมายเชิญให้มารับทราบข้อกล่าวหากันอย่างอึกทึกครึกโครม เหมือนอย่าง สว. มีความผิดแล้ว จนสังคมตั้งคำถามว่า สว. มีความผิดอะไร

ขณะที่ นายอลงกต วรกี สว. ได้พูดเป็นภาษาไทยถึงการส่งหมายเชิญ โดยย้ำว่าไม่ใช่หมาย แต่เป็นหนังสือแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งตามระเบียบงานสารบัญและการชั้นความลับทางราชการ หนังสือฉบับนี้ต้องการมีประทับตราคำว่าลับทั้งด้านบนและด้านล่างของเอกสาร และต้องมีใบปิดด้านหน้า หากมีการส่งไปรษณีย์ ต้องมีการปิดซองทึบ แต่ถ้าส่งไปรษณีย์ไม่ได้ถึงจะต้องปิดหมายที่หน้าบ้านพัก และต้องปิดซองทึบด้วย แต่สิ่งที่เจ้าหน้าที่ทำกลับไปติดเป็นซองใสถือว่าผิดกระบวนการการรักษาชั้นความลับและการปฏิบัติงานสารบัญ ข้อความในเอกสารยังแสดงให้เห็นข้อความที่ทำให้ถูกดูหมิ่นเหยียดหยาม ถือว่ามีความผิดตาม ม.157 ซึ่งตนจะดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้องที่สั่งการ และเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบติการที่นำหมายไปติด
หลังนายอลงกตให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวเสร็จสิ้นแล้ว ได้ถามผู้สื่อข่าวว่ามีอะไรจะถามหรือไม่ แต่ผู้สื่อข่าวถามกลับว่าวันนี้พูดภาษาไทยได้แล้ว นายอลงกต ได้เดินกลับมาที่ไมค์พร้อมพูดว่า No Comment , Thank you very much จากนั้นนายอลงกต ได้เดินออกไปจากวงสัมภาษณ์ ก่อนหันกลับมาพูดกับผู้สื่อข่าวเป็นภาษาอังกฤษ ว่า It’s very important and very deep details. It’s personal ซึ่งแปลว่า มันเป็นเรื่องสำคัญมาก มีรายละเอียดเชิงลึก และเป็นเรื่องส่วนบุคคล
หลังการยื่นคำร้อง พล.ต.ต.ฉัตวรรษ ยังกล่าวถึงกรณีที่ถูกกล่าวหาว่า สว. ฝักใฝ่พรรคการเมือง ว่า ไม่เห็นมีอะไรบอกเลยว่า ตนเองฝักใฝ่พรรคการเมือง เข้ามาในสภามีอำนาจแค่ไหนก็ทำตามที่กฎหมายกำหนด ส่วนที่ถูกกล่าวหาว่ามันเป็นกลาง “เป็นการคิดเอาเอง” มันอยู่ที่ผู้ปฏิบัติ ถ้าผู้ปฏิบัติมีใจบริสุทธิ์ ความเป็นกลางมันย่อมเกิดขึ้น แต่ถ้าจิตใจไม่บริสุทธิ์ถูกครอบงำจะด้วยอะไรก็แล้วแต่ ก็ทำให้การกระทำไม่บริสุทธิ์

ส่วนที่มีข่าว สว.หลายคนเดินทางไปที่โรงแรมพูลแมน พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ ยอมรับว่า บางคนมีตังค์ก็ไปกินข้าว ด้านนายอลงกต จึงถามกลับสื่อมวลชนว่า What is Pullman?, Like a pool ผู้สื่อข่าวจึงตอบกลับว่า “โรงแรมพูลแมน” นายอลงกต กล่าวว่า Where is hotel Pullman ? ผู้สื่อข่าวจึงตอบกลับไปว่า “ซอยรางน้ำ” นายอลงกต จึงตอบว่า “Where is Soi Rangnam” ผู้สื่อข่าวจึงถามกลับอีกว่าแสดงว่าไม่เคยไปใช่หรือไม่ นายอลงกต ตอบว่า “I know only Rattanakosin Hotel”
ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อถึงกรณี นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท เปิดเผยว่า มีการให้ สว.เซ็นใบลาออกเป็นประกันไว้ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวว่า ไม่รู้ พวกท่านรู้ดีว่ากำพืดของคนเคยเป็น ส.ส.เป็นอย่างไร นักข่าวรู้ดี แต่ตนเองเป็น สว.เป็นอาชีพสุจริต ช่วยเหลือประชาชนมาเยอะ ใครจะกล่าวหาอย่างไรก็ว่าไป แต่ถ้ามีเอ่ยชื่อตนเองค่อยว่ากัน