
เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ และสส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการนำ 23 สส. พรรครวมไทยสร้างชาติ ย้ายไปอยู่พรรคการเมืองใหม่ ว่า ยอมรับว่าเป็นการพูดคุยกันและหารือถึงอนาคตทางการเมือง โดยมีกลุ่มเพื่อนของตนประมาณ 10 คน และมีกลุ่มของ นางพิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะผ่านมาครึ่งเทอม ในความชัดเจนนั้น ไม่ใช่ทั้งหมดที่จะไปพร้อมกันหรืออยู่พร้อมกัน เพราะยังไม่เป็นอุดมการณ์เดียวกันทั้งหมด
ทั้งนี้ ภาพที่ปรากฎออกมา ไม่ได้มาจากตน และภาพที่มีสส.ปรากฎ ยอมรับว่ายังไม่ครบ การคุยกัน คือ ขณะนี้เหลืออีกครึ่งเทอม ในทางการเมืองคิดว่าอยู่ที่เดิมใครไม่มีความสุข ตนต้องดีไซน์แนวทางการเมืองกันใหม่ โดยมารยาทต้องขอโทษผู้บริหารพรรครวมไทยสร้างชาติ หากทางการเมืองไม่ชัดเจน ตนจะไม่พูด แต่ขณะนี้โฟกัสไปที่กลุ่มของพรรคโอกาสใหม่ เพราะเป็นพรรคที่ก่อตั้งขึ้นมาใหม่ น้ำยังไม่เต็มแก้ว เติมได้ หากน้ำเต็มแก้ว เติมไม่ได้ เท่ากับว่าไปอาศัยเขาอยู่
เมื่อถามถึงเหตุผลลึกๆที่จะย้ายไปคืออะไร นายสุชาติ กล่าวว่า ตนขอโทษผู้บริหารพรรคที่สังกัด ตนไม่ได้ทะเลาะไม่ได้มีปัญหา แต่ทางการเมืองมีทั้งคนเข้าและคนออก วันนี้ต้องมาพูดเรื่องย้ายพรรค นักการเมืองทุกคนต้องเตรียมพร้อมทุกวินาทีทุกเรื่อง การเมืองไม่มีสัญญาณอะไร แต่พรรคที่ตนสังกัดเดินมาครึ่งปีแล้ว จะครบสมัย จะไปต่อหรือไม่ โดยที่ไม่มีปัญหากัน แต่เป็นเรื่อง เช่น กรรมการบริหารพรรค ที่มีอำนาจมีบทบาทตามระเบียบของพรรค ซึ่งทั้ง 9 คน ตนไม่รู้จักเลย แต่อนาคตทุกอย่างต้องผ่านการตัดสินใจของกรรมการบริหารพรรคที่มีน้ำหนักมากที่สุด
“ไม่มีความขัดแย้ง ผมเป็นสส. บ้านนอก ติดดิน ต่างจังหวัด มีช่องว่างเพราะกรรมการบริหารพรรคไม่ได้เป็น สส. ไม่ได้เป็นผู้แทนจึงไม่รู้ปัญหา ทั้งนี้ผมไม่มีอะไรกับหัวหน้าพรรค แต่ทางการเมืองมีคนออกคนเข้า เมื่อผมออกย่อมมีคนเข้า อุดมการณ์ทางการเมืองมีชอบไม่ชอบ ผมไม่ชอบในโครงสร้างมากกว่า สส.ทุกคนเคยอยู่แบบติดดิน ต้องมีคุยกัน ภาษาเดียวกัน ผมบอกเพื่อนสส.ว่า ผมเป็นรัฐมนตรีได้เพราะคนยกมือให้ ผมเป็นคนตัวเล็กที่สุด ไม่ใช่กล้ามโต เพราะเพื่อนสนบสนุนให้โอกาส พวกผมต้องการแบบนี้”นายสุชาติ กล่าว
เมื่อถามว่าหากย้ายพรรคจะยังสนับสนุนรัฐบาลหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวตอบทันทีว่า แน่นอน เราทำการเมือง เพื่อประชาชน เพื่อประเทศ ดังนั้นพรรคที่ตนจะสังกัดนโยบายและแนวทางพรรคต้องตรงกันเพื่อประเทศบ้านเมือง สถาบันพระมหากษัตริย์ อะไรที่ผิดแปลกไปจากนี้อยู่ด้วยกันไม่ได้
เมื่อถามถึงจำนวนสส.ที่มีโอกาสย้ายไปด้วย นายสุชาติ กล่าวว่า “ผมมี 10 คน ที่เติมมา มาจากกลุ่มของ สส.พิชชารัตน์ คือ เป็นการหารือกัน ชวนมาคุยกัน 3-4 ขั้ว ถึงออกมาแบบนี้ ทั้งนี้ที่คุยกันหากเอ่ยไปเขาอาจไม่สบายใจ เพราะเขายังไม่ชัดเจน แต่มีแนวคิคล้ายกัน บางคนเป็นผู้ใหญ่ทางการเมืองมากกว่าผม”
เมื่อถามถึงประเมินสถานการณ์การเมือง เสถียรภาพรัฐบาล และการปรับครม. อย่างไร นายสุชาติ กล่าวว่า ปรับครม. เป็นอำนานและสิ่งที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ เป็นผู้ตัสินใจ ตนก้าวล่วงไม่ได อย่างไรก็ดีไม่ว่าตนอยู่ตรงไหนพร้อมสนับสนุนรัฐบาล ล้านเปอร์เซ็นต์ ขณะที่เสถียรภาพรัฐบาล ตนมองว่ามีเสถียรภาพสูงมาก การบริหารประเทศตอนนี้ถือว่าดีที่สุด หากเทียยบกับประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้นตนเชื่อว่าเสถรียรภาพรัฐาลเข้มแข็งและอยู่ครบเทอม
เมื่อถามย้ำว่ามองว่ากระทรวงไหนตอบโจทย์การทำงานของกลุ่ม นายสุชาติ กล่าวว่า “ผมคิดไปไกลไม่ได้ มองได้แค่ที่ผ่านมาต้องทำอย่างไร ขยับอย่างไร พวกผมเป็นนักการเมืองต้องปรับและดูสถานการณ์การเมือง เหมือนเป็นพนักงานบริษัทอยู่ได้ก็อยู่ หากอยู่ไม่ได้ต้องสรางบริษัทเอง พวกผมระลึกถึงประเทศเป็นหลัก และพร้อมสนับสนุนรัฐบาลทำงานเพื่ประชาชนต่อไป”