
Krungthai COMPASS มองว่า กรณีที่สหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาด ส่งออกหลักถุงมือยางของไทยประกาศห้ามใช้ถุงมือยางธรรมชาติในอุตสาหกรรมการแพทย์และอุตสาหกรรมอาหารในระยะสั้นจะกระทบต่อการส่งออกถุงมือยางของไทยไม่มากนัก เนื่องจากจนถึงปัจจุบันมีการบังคับใช้กฎหมายนี้เพียง 8 จาก 50 รัฐ อย่างไรก็ตาม การห้ามนำเข้าถุงมือยางธรรมชาติในรัฐอื่นของสหรัฐฯ รวมทั้งในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วยังคงเป็นประเด็นต้องจับตาต่อไป
ในปี 2566-2567 คาดว่ามูลค่าส่งออกถุงมือยางของไทยจะอยู่ที่ 1,603 ล้านเหรียญสหรัฐ และ 1,699 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 3.8%YoY และ 6.0%YoY จากความต้องการใช้ในอุตสาหกรรมการแพทย์และอุตสาหกรรมอาหารของโลกยังคงมีแนวโน้มเติบโต ขณะที่ในปี 2566 ราคาส่งออกจะลดลงจากอุปทานส่วนเกินที่ยังมีอยู่ ส่วนในปี 2567 การผลิตและความต้องการใช้ถุงมือยางโลกที่เริ่มสมดุล ทำให้ราคาส่งออกกลับมามีเสถียรภาพมากขึ้น
ผู้ประกอบการควรพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ที่แพ้ถุงมือยางธรรมชาติ รวมทั้งขยายตลาดส่งออกใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา เช่น จีน อินเดีย อินโดนีเซีย เป็นต้น ขณะที่ภาครัฐควรสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ในการต่อยอดผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม