“หมอเตย-ผัว”เป็นใครบังอาจบุกยึดศูนย์ปฏิบัติธรรม 20 ไร่วัดไร่ขิงมีอำนาจเหนืออดีตเจ้าคุณแย้ม

ยิ่งคุยยิ่งอึ้ง เปิดอาณาจักร หมอเตย และสามีอดีตจ่า ใช้ศูนย์ปฏิบัติธรรมที่ดินของวัดไร่ขิง พื้นที่กว่า 20 ไร่ เป็นที่พักอาศัยมานานนับปี โดยวันนี้เจ้าหน้าที่วัดได้ขอประสานเข้าไปบันทึกเก็บข้อมูลภายใน แต่ถูกลูกน้องและเจ้าตัวปฏิเสธไม่ให้เข้า ซึ่งชาวบ้านหลายคนบอกว่าพบมีการจัดงานปาร์ตี้หลายครั้ง ทั้งนี้วงในยังให้ข้อมูลกิจการร้านกาแฟ ทั้งสองสาขาของวัดไร่ขิง ได้ถูกมาเฟียคู่นี้ยึดทำกินมานานหลายปี โดยมีอิทธิพลเหนือนายแย้มมานาน และพยายามจะตัดวงจรให้นางสาวอรัญญาวรรณ ออกห่างจากอดีตเจ้าอาวาสหลังพบว่ามีเงินไหลออกจากระบบเป็นจำนวนมากแต่ไม่ทันการณ์ ชาวบ้านบอกให้เอาสองคนนี้ออกจากวัดจะทำให้บรรยากาศหายตึงเครียดไปอีกมาก

บรรยากาศบริเวณรอบพื้นที่วัดไร่ขิง พระอารามหลวง อ.สามพราน จ.นครปฐม หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมหลายหน่วยงานได้ทำการสะสางปมปัญหาเส้นทางทางการเงินของ อดีตเจ้าคุณแย้ม หรือ นายแย้ม อินทร์กรุงเก่า ซึ่งมีสัมพันธ์ในการยักยอกเงินจากวัดไร่ขิง ซึ่งพบมีเงินไหลเวียนที่ นางสาวอรัญญาวรรรณ ซึ่มีเงินไหลเวียน กว่า 2,000 บาท และถูกควบคุมตัวเพื่อทำการสอบสวนถึงแหล่งที่มาที่ไปของเงินจำนวนมาก ที่ไปพัวพันกับเว็ปการพนันอออนไลน์ ซึ่งได้มีการแถลงข่าวความคืบหน้าและความชัดเจนของที่มาที่ไปในการติดตามจับกลุ่มดังกล่าว

นอกเหนือจากประเด็นที่ พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมหลายหน่วยงานได้แถลงความคืบหน้าไปแล้วก็ทำให้เกิดประเด็นและตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับตัว หมอเตย และพันจ่าตรีฉัตรชัย สามี ทั้งคู่เป็นคนสนิทและมีข้อมูลยืนยันว่า มีส่วนได้ส่วนเสียกับเงินรายได้ของวัดไร่ขิง โดยยังมีอำนาจควบคุมและสั่งการอดีตเจ้าคุณแย้มขณะเป็นเจ้าอาวาส ทำให้มีการทวงถามและสอบถามถึงการติดตามตัวและเงินที่ไหลไปอยู่กับสองสามีภรรยา

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ติดตามข้อมูลของทั้งหมอเตย และพันจ่าตรีฉัตรชัย ที่บริเวณค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง หมู่ที่ 8 ตำบลท่าตลาด อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม มีแหล่งข้อมูลระบุว่า ทั้งคู่ได้อาศัยสถานที่ซึ่งเป็นที่ดินของวัดไร่ขิงอาศัยกบดานอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว โดยมีพื้นที่กว้างกว่า 20 ไร่ ซึ่งในช่วงที่ผู้สื่อข่าวได้ประสานกับทางเจ้าหน้าที่วัดไร่ขิง เพื่อขอบันทึกภาพและเก็บข้อมูลในพื้นที่ดังกล่าว ปรากฏว่าที่ด้านหน้าประตูได้มีการล็อคไว้อย่างแน่นหนา มีกล้องวงจรปิดติดไว้ที่ด้านหน้าและทั่วบริเวณในพื้นที่

จากนั้น ได้มีเจ้าหน้าที่ของวัดได้โทรประสานงานเพื่อขอให้คนภายในเปิดประตู แต่เจ๊มีคำสั่งจากคนข้างในว่าไม่ให้มีการเปิดประตูเพื่อไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปติดตามบันทึกภาพภายใน โดยแหล่งข่าวแจ้งว่า เจ๊คนดังกล่าว ก็คือหมอเตย และภายในพบว่ามีรถยนต์จอดอยู่ถึง 6 คัน หนึ่งในนั้นเป็นรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า อัลฟาร์ท สีขาว ที่อดีตเจ้าคุณแย้มเคยใช้ตั้งแต่ครั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าจำนวนรถทั้ง 23 คัน ที่เกี่ยวข้องกับวัดไร่ขิงตกเป็นชื่อของหมอเตย น่าจะมีการโยกย้ายถ่ายเทออกไปจนเกือบหมดแล้ว

นอกจากนี้ จากการสอบถามแหล่งข่าวบริเวณใกล้เคียงทราบว่า พื้นที่นี้เป็นที่ดินของวัดไร่ขิง แต่หมอเตยและครอบครัวได้มาพักอาศัยและยกเลิกจากสถานที่ปฎิบัติธรรมซึ่งเคยมีพระสงฆ์สามเณรเข้ามาทำกิจกรรมที่นี่ ให้กลายเป็นสถานที่รกร้างและเงียบเหงา จะมีการจัดเลี้ยงสังสรรค์มีการดื่มสุรา จัดดนตรีเป็นงานปาร์ตี้อยู่บ่อยครั้งจนเป็นที่ทราบดีของคนในละแวกดังกล่าว แต่ก็ไม่มีใครกล้าร้องเรียนหรือนำเรื่องดังกล่าวไปแจ้งต่อหน่วยงานจนกระทั่งเกิดประเด็นอดีตเจ้าคุณแย้มยักยอกเงินวัดไร่ขิง

ผู้สื่อข่าวยังได้ลงพื้นที่ไปยังบริเวณด้านหลังโรงพยาบาลสามพราน จุดที่ระบุว่าเป็นการก้าวเข้ามาใช้พื้นที่ของวัดไร่ขิงเมื่อหลายปีก่อน จุดดังกล่าวเป็นพื้นปูนมีบ้านน็อคดาวน์จัดเรียงไว้หลายหลัง หมอเตยและสามี ได้ใช้สถานที่ดังกล่าวอยู่อาศัยต่อมาเมื่อมีอำนาจมากจึงได้มีการโยกย้ายออกไปที่ค่ายค่ายลูกเสือและนำรถยนต์รวมถึงทรัพย์สินหลายรายการของวัดไร่ขิงที่ได้จากอดีตเจ้าอาวาส ผู้ช่วยเจ้าอาวาสหลายองค์ที่มรณภาพ ไปเก็บไว้เป็นของตนเอง เป็นสิ่งที่คนในวัดรู้สึกหนักใจและไม่กล้าพูดอะไรออกไปเนื่องจากยังเกรงใจบารมีของเจ้าอาวาสคืออดีตเจ้าคุณแย้มในขณะนั้น

แหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ได้ให้ข้อมูลว่าร้านกาแฟอินทณัฐ สาขา 2 ตั้งอยู่ใต้อาคารปฎิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรตฯ ด้านหลังโรงพยาบาลสามพราน ก็เป็นธุรกิจของหมอเตย ขณะนี้ได้มีการปิดกิจการหลังจากมีกระแสข่าวบุกจับกุมอดีตเจ้าคุณแย้ม ทำให้ร้านกาแฟเงียบเหงาและทิ้งข้าวของเอาไว้อย่างกระจัดกระจาย ยังไม่มีใครเข้ามาดูแล ประกอบกับปัจจุบันกาแฟอินทณัฐ สาขา 1 และร้านค้าสวัสดิการวัดไร่ขิง ที่ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าพระอุโบสถ จุดตรงทางลงที่แม่น้ำท่าจีน ก็เป็นกิจการของหมอเตย ที่ได้เข้ามาควบคุมและเปิดร้านโดยมีรายได้ในวันธรรมดา 1-2 หมื่นบาท แต่ในวันเสาร์อาทิตย์และวันหยุดยาวจะมีรายได้วันละนับแสนบาท รวมถึงบ้านดินอินทณัฐจุดเลี้ยงปลาคาร์ฟ ก็เป็นธุรกิจหมอเตยได้วางรากฐานเอาไว้มานานหลายปี ทำให้หลายคนสงสัยว่าเม็ดเงินจำนวนนี้ได้มีการจัดสรรดูแลอย่างไร

จากการตรวจสอบข้อมูลภายในบริเวณรอบโบสถ์ ยังพบว่าจุดที่ หมอเตย ได้มีส่วนเข้ามายุ่งและเกี่ยวข้องนั่นคือการเก็บสังฆทานที่ญาติโยมนำมาถวายที่ข้างโบสถ์ ทุกวันช่วงเวลาค่ำประมาณ 2-3 ทุ่มจะมีคนนำขึ้นรถกระบะขนถ่ายออกไปส่วนหนึ่งทราบว่าได้นำไปแจกจ่ายซึ่งเป็นส่วนน้อย แต่ส่วนที่เหลือจะมีการนำไปขายเป็นเงิน ตรงนี้ก็ถือว่าเป็นจุดที่เป็นเงินมหาศาลเพราะวันหนึ่งจะมีญาติโยมนำสังฆทานมาถวายเป็นจำนวนมาก

แหล่งข่าวหลายคนยืนยันตรงกันและทำให้น่าตกใจก็คือ กุมารอินทณัฐ ซึ่งตั้งอยู่ที่ด้านหลังโบสถ์ เป็นกุมารหนุ่มตั้งอยู่ตรงกลาง ประกบด้านข้างซ้ายขวากับกุมารพี่จุกและพี่แกละ สองกุมารดั้งเดิมเป็นกุมารที่อยู่คู่กับโบสถ์วัดไร่ขิงมาอย่างยาวนาน แต่กุมารอินทณัฐ คือกุมารที่หมอเตยได้อุปโหลกขึ้นมา และนำมาตั้งไว้ในบริเวณดังกล่าวจึงได้นำชื่อกุมารไปตั้งเป็นร้านกาแฟทั้งสองสาขา ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่หลายคนละอา แต่ไม่สามารถพูดได้เพียงแต่รอวันให้เรื่องดังกล่าวได้ถูกหยิบยกขึ้นมาในการจัดระบบภายในทั้งหมด

จากการสอบถามคนเก่าแก่ ที่ยังคงทำงานอยู่ภายในวัดไร่ขิงก็ได้ให้ข้อมูลตรงกันว่า ไม่ทราบว่าเหตุใดอดีตเจ้าคุณแย้ม จึงได้หลงเชื่อคำสั่งของสองสามีภรรยาคู่นี้ ถือว่ามีอิทธิพลมากกับการตัดสินใจสั่งการของอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง โดยกระบวนการดังกล่าวถือว่ามีความยาวยาวนานมากกว่า นางสาวอรัญญาวรรณ เพราะรู้จักคุ้นเคยกับอดีตเจ้าคุณแย้มมาตั้งแต่ปี 2551 จนถึงปัจจุบัน และในช่วงหลังยุคโควิด หมอเตยเริ่มทราบข่าวระแคะระคายเกี่ยวกับการเงินที่ไหลไปที่นางสาวอรัญญาวรรณ จึงได้มีการพยายามที่จะผลักดันและกดดันให้ขาดจากอดีตเจ้าคุณแย้ม แต่สุดท้ายก็ไม่ทันเพราะเงินส่วนใหญ่ซึ่งมีมูลค่ามหาศาลได้ไหลไปที่สาวน้อยหน้าตาสวยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนรายได้หลักที่เป็นเงินสดและโยกไปเป็นทรัพย์สินเช่นรีสอร์ท ร้านกาแฟ ในจังหวัดต่างๆ นั้นมีมูลค่ามากเท่าใด ซึ่งคนวงในก็คาดหวังจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสืบทราบเส้นทางการเงินและทรัพย์สินทั้งหมดของหมอเตย และสามี ว่าได้มีการนำผลประโยชน์ของวัดออกไปแล้วเป็นจำนวนเท่าไหร่ และอยากให้มีการผลักดันทั้งคู่ไม่ให้เข้ามาข้องเกี่ยวกับวัดไร่ขิงอีกต่อไปหากทำได้ก็จะทำให้สถานการณ์บรรยากาศของวัดไร่ขิงอยู่ในความคลี่คลายหลังจากตึงเครียดมาแล้วเป็นสัปดาห์

ขณะเดียวกันยังพบว่าญาติโยมจากทั่วสารทิศยังเลื่อมใสในความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อวัดไร่ ยังคงเดินทางเข้ามากราบไหว้และขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลกับตัวอย่างต่อเนื่อง และเริ่มมีมากขึ้นเนื่องจากกระบวนการสอบสวนได้พบผู้กระทำความผิดและแยกความผิดตามลำดับให้เห็นอย่างชัดเจน โดยหลายคนหวังว่าอยากจะให้มีการสะสางปัญหาให้จบโดยเร็ว จะทำให้ญาติโยมกลับเข้ามาที่วัดไร่ขิงอีกจำนวนมหาศาลเช่นเดิม

Message us