“หมอเปรม”จี้วิปวุฒิฯชะลอเลือกกกต.-ตุลาการศาล รธน.เรียกศรัทธาประชาชน

เมื่อวันที่ 27 พ.ค. นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภา(สว.) ให้สัมภาษณ์ว่า มีหนังสือด่วนที่สุดออกเมื่อวันที่ 26 พ.ค.ส่งจากนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร เลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุมิสภา (วิปวุฒิ) ถึงกรรมาธิการวิสามัญฯทุกคน เรียกประชุมด่วนในวันพรุ่งนี้ ( 28 พ.ค.)เวลา 09.00 น.ที่อาคารรัฐสภา ซึ่งมีวาระเรื่องที่เสนอพิจารณาคือ การตั้งกรรมาธิการสามัญในคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้งและตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ

นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า ตนขอให้ชะลอการเตรียมการตั้งคณะกรรมาธิการสามัญฯออกไปก่อน เพราะการพิจารณาเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากที่ผ่านมาคณะกรรมการสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้เสนอชื่อบุคคลผู้สมควรได้รับการเสนอชื่อเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมายังวุฒิสภาแล้ว จำนวน 2 คน ล้วนเป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ความสามารถ และประสบการณ์ แต่กลับไม่ได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภา ทำให้สังคมเกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับการทำหน้าที่ของสมาชิกวุฒิสภาเสียงข้างมากที่ลงคะแนนไม่เห็นชอบมาแล้ว

นอกจากนั้น ในช่วงเวลาต่อมาปรากฏข้อเท็จจริงว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษไรือดีเอสไอได้มีมติให้สอบสวนเป็นคดีพิเศษ เรื่อง ฟอกเงินและอั้งยี่อันเกี่ยวกับกระบวนการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา ขณะเดียวกันคณะกรรมการเลือกตั้งก็ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน กรณีการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภาโดยไม่สุจริตและเที่ยงธรรม หรือการฮั้ว สว.
ด้วย ล่าสุดคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนได้มีหนังสือแจ้งข้อกล่าวหาแก่สมาชิกวุฒิสภาแล้วกว่า 60 คน และจะทยอยมีหนังสือแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีกประมาณ 90 กว่าคน ทำให้มีสมาชิกวุฒิสภาจะถูกแจ้งข้อกล่าวหาเกือบ 150 คน ขณะเดียวกันดีเอสไอก็เตรียมแจ้งข้อกล่าวหาในคดีอาญากับสมาชิกวุฒิสภาเหล่านี้อีกส่วนหนึ่งด้วย

“แม้ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญและกฎหมายจะถือว่าสมาชิกวุฒิสภาที่ถูกดำเนินดีเหล่านี้เป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ก็ตาม แต่เนื่องจากการทำหน้าที่ของสมาชิกวุฒิสภาต้องเป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 114 ที่บัญญัติว่า “สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาย่อมเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย ไม่อยู่ในความผูกมัดแห่งอาณัติมอบหมาย หรือความครอบงำใด ๆ และต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและความผาสุกของประชาชนโดยรวม โดยปราศจากการขัดกันแห่งผลประโยชน์” จากบทบัญญัติดังกล่าวเป็นหลักการสำคัญที่สมาชิกวุฒิสภาต้องถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด แต่ข้อเท็จจริงที่ปรากฏจากข่าวสาร ตามผลการตรวจสอบของกกต.และดีเอสไอพบว่ามีบุคคลอยู่เบื้องหลังในกระบวนการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภาจนมีการตั้งฉายาว่า “สว.สีน้ำเงิน” ด้วยเหตุนี้ทำให้สังคมเข้าใจไปได้ว่าในการปฏิบัติหน้าที่ของสมาชิกวุฒิสภาเหล่านี้ อาจทำตามความต้องการของบุคคลที่อยู่เบื้องหลังได้ ดังนั้นการลงมติใดๆ ของสมาชิกวุฒิสภาจึงอาจมิได้เป็นไปโดยอิสระอย่างแท้จริง”นพ.เปรมศักดิ์กล่าว

นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า กรรมการการเลือกตั้ง และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีบทบาทและหน้าที่สำคัญ จึงควรได้บุคคลที่เป็นกลางและทำหน้าที่ได้อย่างอิสระแท้จริง ไม่เป็นบุคคลที่มีฝ่ายการเมืองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสนับสนุน เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่ามีสมาชิกวุฒิสภาจำนวนมากถูกกล่าวหาและอยู่ระหว่างสอบสวน โดยมีข้อมูลว่า มีฝ่ายการเมืองสนับสนุน ดังนั้น เพื่อให้กระบวนการตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อ ตลอดจนกระบวนการลงมติของสมาชิกวุฒิสภาเป็นไปโดยอิสระ ได้บุคคลที่มีความรู้ความสามารถ สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างสุจริตเที่ยงธรรม และเป็นกลางทางการเมืองอย่างแท้จริง จึงสมควรให้ชะลอการแต่งตั้งคณะกรรมาธิการสามัญฯ ทั้งสองคณะดังกล่าวไว้ก่อน และชะลอการเสนอชื่อต่อวุฒิสภาเพื่อให้เห็นชอบบุคคลให้ดำรงตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้งและตุลการศาลรัฐธรรมนูญไว้ก่อน จนกว่าจะได้ความชัดเจนในผลการดำเนินการของกกต.และดีเอสไอ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับวุฒิสภาตามมาภายหลัง

” วุฒิสภาเป็นสารตั้งต้นขององค์กรอิสระ ส่วนองค์กรอิสระเป็นสารตั้งต้นของประชาธิปไตยหากมาอย่างไม่สง่างามก็จะเกิดทางตันของประชาธิปไตยได้ จะเกิดข้อครหามีผลประโยชน์ต่างตอบแทนได้ เพราะสว.ส่วนหนึ่งกำลังพัวพันเรื่องฮั้วสว.อยู่ ถ้าการสอบสวนเรื่องนี้กระจ่างค่อยมาเลือกภายหลังได้ไม่เสียหาย ส่วนการไม่เลือกองค์กรอิสระในช่วงนี้ก็ไม่เกี่ยวกับทำผิดมาตรา 157 ข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เหมือนที่สว.บางคนออกมาทักท้วงเลย แต่การฝ่าฝืนมติมหาชนที่มองสว.อย่างไม่สง่างามต่างหากที่จะทำให้เกิดความเสื่อมศรัทธาสว.ดิ่งเหว การไม่เลือกวันนี้ ไม่ได้แปลว่าทำผิด แต่เลือกผิดวันนี้ จะเสียหายในระยะยาว การฟังเสียงประชาชน คือหัวใจของการทำหน้าที่ในระบอบประชาธิปไตย สว.ที่ดี ต้องมีหูฟังประชาชน ไม่ใช่ฟังแต่เสียงตัวเองในห้องประชุม ” นพ.เปรมศักดิ์กล่าว

Message us