
กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) จัดโครงการ “สลาก กอช สัญจรทั่วไทย” ที่โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด จังหวัดขอนแก่น พร้อมเวทีเสวนาหัวข้อ “สลาก กอช นวัตกรรมใหม่การออม” โดยมี ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง, น.ส.จารุลักษณ์
เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ, นายวสันต์ เจนร่วมจิต หัวหน้ากองนวัตกรรม สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และนายณัฏฐวุฒิ ธรรมศิริ ผู้อำนวยการกองนโยบายการออมและการลงทุน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนผ่านเวทีเสวนา
ดร.เผ่าภูมิ กล่าวว่า “สลาก กอช” หรือ “หวยเกษียณ” เกิดขึ้นเพื่อตอบโจทย์ปัญหาเชิงโครงสร้างด้านการออมของประเทศไทย ซึ่งขณะนี้ประเทศกำลังเข้าสู่สังคมสูงวัยในอัตราเร่งเร็วกว่าหลายประเทศทั่วโลก โดยประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่มีความพร้อมด้านการเงินหลังเกษียณ และเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะ “แก่ก่อนรวย” ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของวงจรความเปราะบางทางเศรษฐกิจ และเป็นคำถามตามมาว่า “เราทุกคนอยากมีชีวิตหลังเกษียณที่มั่นคง แต่วันนี้เราพร้อมหรือยัง” รัฐบาลจึงได้ออกแบบเครื่องมือใหม่เพื่อสร้างแรงจูงใจในการออมผ่าน “สลาก กอช” หรือ “หวยเกษียณ” ให้เป็นนวัตกรรมการออมใหม่ ที่ใช้พฤติกรรมความชอบเสี่ยงดวงของคนไทย มาเปลี่ยนเป็นแรงผลักในการเก็บออมอย่างมีเป้าหมาย
“นี่ไม่ใช่แค่โครงการใหม่ของรัฐ แต่เป็นการออกแบบนโยบายเศรษฐกิจเพื่ออนาคต ผมขอใช้คำว่า สลาก กอช หรือ หวยเกษียณ คือโมเดลใหม่ของไทย ที่ทำให้การออมเป็นเรื่องสนุก มีแรงจูงใจ และตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ จุดเด่นคือ ผู้ซื้อจะไม่สูญเสียเงินต้น เพราะเงินที่ใช้ซื้อสลากจะถูกนำไปสะสมไว้ในบัญชีเงินออมของผู้ซื้อ ไม่ว่าจะถูกรางวัลหรือไม่ถูกรางวัลก็ตาม พร้อมผลตอบแทนจากการลงทุนในระยะยาว และยังคงหลักการสำคัญของ กอช. คือ การส่งเสริมความั่นคงในยามชราภาพ” ดร.เผ่าภูมิ กล่าว
ดร.เผ่าภูมิ ย้ำว่า ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า “สลาก กอช” หรือ “หวยเกษียณ” จะไม่เป็นเพียงโครงการในระยะสั้นเท่านั้น แต่จะฝังรากในระบบเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน รัฐบาลจึงได้แก้ไข พ.ร.บ. กอช. เพื่อให้ดำเนินโครงการนี้ได้อย่างต่อเนื่องในทุกยุคทุคสมัย และปัจจุบันกฎหมายอยู่ในขั้นตอนของกรรมาธิการก่อนนำเข้าสู่การพิจารณาในวาระ 2 และวาระ 3 ในเดือนกรกฎาคม ตามลำดับ ทั้งนี้ “สลาก กอช” หรือ “หวยเกษียณ” จะช่วยส่งเสริมวินัยการออมให้กับคนไทย ซึ่งรัฐจะอุดหนุนงบประมาณให้ดำเนินการ 780 ล้านบาทต่อปี เพื่อสนับสนุนให้เงินเหล่านี้กลายเป็นเงินออมของประชาชนในระยะยาว คาดว่า จะสามารถสร้างเงินออมเข้าระบบได้ปีละกว่า 13,000 ล้านบาท และยังเป็นการดึงเม็ดเงินจากการเสี่ยงโชคนอกระบบ กลับเข้าสู่ระบบอย่างถูกกฎหมาย นี่คือแนวทางใหม่ในการเชื่อมโยงนโยบายการคลังเข้ากับพฤติกรรมประชาชนในชีวิตจริง
ด้าน น.ส.จารุลักษณ์ กล่าวว่า “สลาก กอช”หรือ “หวยเกษียณ” เป็นสลากขูดดิจิทัล ที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมวินัยการออมของประชาชน โดยจะวางจำหน่ายงวดละ 5 ล้านฉบับ ในราคาฉบับละ 50 บาท เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีสัญชาติไทย อายุ 15 ปีขึ้นไป สามารถซื้อได้โดยกำหนดให้คนละไม่เกิน 3,000 บาทต่อเดือน หรือไม่เกินเดือนละ 60 ใบ โดยจะมีการออกรางวัลทุกวันศุกร์ เวลา 17.00 น. ประกอบด้วย รางวัลที่ 1 มูลค่า 1,000,000 บาท จำนวน 5 รางวัล รางวัลที่ 2 มูลค่า 1,000 บาท จำนวน 10,000 รางวัล โดยเงินรางวัลจะโอนเข้าบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขบัตรประชาชนของผู้ถูกรางวัลภายในวันเดียวกัน นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี ก็สามารถซื้อสลาก กอช ได้เช่นกัน โดยต้องถือครองไว้ครบ 5 ปี จึงจะสามารถถอนเงินคืนได้ และสามารถซื้อซ้ำได้รอบละ 5 ปี
“สลาก กอช หรือ หวยเกษียณ เป็นทางเลือกใหม่ในการออมที่ออกแบบมาเพื่อให้ประชาชนสามารถเริ่มต้นออมได้ง่าย ทั้งนี้ กอช. ได้เดินหน้า โครงการ “สลาก กอช สัญจรทั่วไทย” เพื่อนำข้อมูลความรู้ไปให้ถึงมือประชาชน พร้อมเปิดรับฟังข้อคิดเห็นจากแต่ละพื้นที่ และได้ลงพื้นที่แล้วในหลายจังหวัด ได้แก่ พังงา พิษณุโลก สกลนคร อุดรธานี และหนองคาย เพื่อให้สลาก กอช ตอบโจทย์และใกล้ชิดกับความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง และสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของ สลาก กอช ได้ที่เฟซบุ๊ก : กองทุนการออมแห่งชาติ-กอช. หรือเว็บไซต์ www.nsf.or.th” นางสาวจารุลักษณ์ กล่าว
ข้อมูลเกี่ยวกับ กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) : เป็นทางเลือกการออมที่ยืดหยุ่นเหมาะสำหรับคนไทยที่ไม่มีสวัสดิการบำเหน็จบำนาญจากรัฐ เช่น ผู้ประกอบอาชีพอิสระ พ่อค้าแม่ค้า แรงงานนอกระบบ นักเรียน นักศึกษา ที่มีอายุระหว่าง 15 – 60 ปี เริ่มออมได้ตั้งแต่ 50 บาท สูงสุด 30,000 บาทต่อปี พร้อมรับเงินสมทบจากรัฐสูงสุดถึง 100% ตามช่วงอายุ ดังนี้
- อายุ 15 – 30 ปี รัฐสมทบให้ 50 % ของเงินออม แต่ไม่เกิน 1,800 บาทต่อปี
- อายุ >30 – 50 ปี รัฐสมทบให้ 80% ของเงินออม แต่ไม่เกิน 1,800 บาทต่อปี
- อายุ >50 – 60 ปี รัฐสมทบให้ 100% ของเงินออม แต่ไม่เกิน 1,800 บาทต่อปี
นอกจากนี้ ผู้ที่ออมเงินกับ กอช. ยังมีโอกาสได้รับเงินบำนาญรายเดือนตลอดชีพ เมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ และรัฐค้ำประกันผลตอบแทนการลงทุนไม่ต่ำกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือน เฉลี่ย 7 ธนาคาร เงินออมยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 30,000 บาทต่อปี ผู้สนใจสามารถตรวจสอบสิทธิ สมัครสมาชิก และส่งเงินออมได้ง่ายๆ ผ่านแอปพลิเคชัน “กอช”, เป๋าตัง, ทรูมันนี่, เคพลัส,ShopeePay และช่องทางอื่นๆ หรือ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน กอช. 02-049-9000 ได้ทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.30 – 17.30 น.