เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เกาะพญาไท กลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไทย นำโดย นายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตแกนนำ นปช. , นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ , นายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความ และนายพิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่ม คปท. เดินทางมายังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อดูสถานที่และจุดตั้งเวทีชุมนุม การนัดจัดทำกิจกรรมแสดงพลังความรักชาติ ในวันที่ 28 มิถุนายนที่จะถึงนี้
นายจตุพร เปิดเผยว่า ในวันนี้คณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย ได้นัดหมายมาดูจุดที่จะตั้งเวที บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และตกลงว่าจะเลือกจุดนี้ เนื่องจากไทยได้ประกาศเป็นเอกราชและได้สร้างอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อเป็นที่รำลึกถึงบรรพบุรุษที่ต่อสู้เพื่อแผ่นดิน ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (23 มิ.ย. 68) ได้ประสานงานนัดประชุมกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อหารือถึงแนวทางการชุมนุม เพื่อไม่ให้การชุมนุมกระทบกับผู้ใช้รถใช้ถนนรวมถึงละเมิดกฎหมาย ยืนยันว่าการมาชุมนุมครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการเรียกร้องให้มีการรัฐประหาร
ด้าน นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ หนึ่งในแกนนำผู้ชุมนุม กล่าวว่า ทางกลุ่มได้เดินทางมาดูสถานที่เพื่อแสดงความโปร่งใสและเปิดเผยว่า มีการจัดเวทีในที่สาธารณะ สาเหตุที่เลือกตำแหน่งนี้เนื่องจากต้องการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เพราะ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิสร้างขึ้น เพื่อเป็นการประกาศว่า ประเทศไทยมีเอกราชสามารถทวงคืนแผ่นดินได้จากข้อพิพาทระหว่างประเทศ ขณะนี้มีขบวนการเตะตัดขากลุ่มผู้ชุมนุม โดยใช้ข้อกฎหมายในด้านต่าง ๆ มาดำเนินคดีกับกลุ่มแกนนำ แต่ยืนยันว่า การชุมนุมจะไม่ส่งผลกระทบกับโรงพยาบาลซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับจุดชุมนุม ส่วนเงินที่ได้มาใช้ในการจัดการชุมนุมนั้น ได้รับการสนับสนุนมาจากกลุ่มของตัวเองและหลังจากนี้จะมีการเปิดบัญชีเพื่อให้ประชาชนที่สนใจร่วมบริจาค เพื่อสนับสนุนเป็นการแสดงความโปร่งใสว่าไม่มีกลุ่มคนอยู่เบื้องหลังการชุมนุม
ขณะที่ นายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความ กล่าวว่า ในขั้นตอนกระบวนทางกฎหมาย ของคณะรวมพลังแผ่นดิน ในพรุ่งนี้ ( 23 มิถุนายน) เวลา 10.00 น. คณะรวมพลังแผ่นดินจะเดินทางไปพูดคุยกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อหารือถึงข้อกฎหมายและร่วมกันออกแบบไม่ให้กระทบกับการจราจรและการใช้ชีวิตกับประชาชน จึงขอเรียนไปทางรัฐบาลด้วยว่า เรื่องนี้ดูเหมือนจะคล้ายการชุมนุมแต่ไม่ใช่ เพราะเป็นบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่ พ.ร.บ.การชุมนุม เพราะ พ.ร.บ.การชุมนุม เป็นการยื่นข้อเรียกร้อง แต่เรื่องนี้ไม่ได้ขออะไรจากรัฐบาล แต่เป็นการมาแสดงพลัง ดังนั้นตำรวจจึงไม่มีสิทธิว่า จะอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ชุมนุม แต่ต้องอำนวยความสะดวกว่า จะให้ปฏิบัติตรงไหนอย่างไร และทางกลุ่มฯจึงขอแจ้งประชาชนที่จะมาร่วมกิจกรรมว่า สามารถดำเนินการได้
